'บิ๊กอู๊ด' สับ 'บิ๊กโจ๊ก' ใช้ไบโอเมทริกซ์เป็นเครื่องมือให้เกิดความชอบธรรม
"สมพงษ์" พร้อมตำรวจ ตม. รุมสับ "บิ๊กโจ๊ก" ยันไม่ควรนำเรื่องไบโอเมทริกซ์ไปเป็นเครื่องมือเชื่อมโยงกับความขัดแย้งส่วนตัว เพื่อให้เกิดความชอบธรรม ระบุโครงการฯ นี้ ผบ.ตร. เป็นผู้ลงนามอนุมัติฯ ยืนยันเครื่องมือนี้สามารถจับคนร้ายได้จริง
จากกรณีที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. ออกมาระบุว่า ระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล หรือ ไบโอเมทริกซ์ ที่ ตม.ได้ดำเนินการติดตั้ง เพื่อตรวจสอบประวัติของบุคคลที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยนั้น ไม่สามารถตรวจจับคนร้ายได้จริง โดยที่ผ่านมาเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจล้วนๆ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมือง ออกมายืนยันว่า ระบบนี้สามารถใช้งานได้จริง ซึ่งไม่ทราบว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เอาข้อมูลมาจากไหนว่าระบบไบโอเมทริกซ์ ไม่สามารถใช้งานได้จริง ทั้งที่เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูง ถือเป็นระบบมาตรฐานสากลที่สนามบินนานาชาติขนาดใหญ่นิยมใช้กัน เช่น สหรัฐอเมริกา เป็นต้น และที่ผ่านมาสามารถจับกุมชาวต่างชาติที่กระทำผิด หรือมีประวัติที่พยายามหลบหนีเข้าประเทศไทยได้เป็นจำนวนมาก และการนำระบบนี้มาใช้มีความคุ้มค่า ช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้ว่า ประเทศไทยมีระบบคัดกรองที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้อนุมัติโครงการ ก็เพื่อยกระดับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับนานาชาติ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งนี้ มองว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไม่ควรนำเรื่องระบบไบโอเมทริกซ์ไปเชื่อมโยงกับความขัดแย้งส่วนตัว และไม่ควรใช้เรื่องนี้เป็นเครื่องมือให้ตัวเองเกิดความชอบธรรม
ด้าน พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า กรณีที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ นำเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวมาเชื่อมโยงกับระบบไบโอเมทริกซ์ เนื่องจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้อนุมัติโครงการ ตนก็พร้อมจะชี้แจงกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพราะทำงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีเอกสารพร้อม
ดร.อาศิส อัญญะโพธิ์ ผผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาดิจิทัลโซลูชันส์ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมตรวจสอบระบบไบโอเมทริกซ์ ยืนยันว่า เป็นระบบที่มีมาตรฐานสากล ใช้งานได้จริง แต่อาจจะมีความล่าช้าในการเชื่อมโยงระบบไปบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ เมื่อทุกอย่างเข้าระบบก็จะสามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ สามารถตรวจสอบชิพที่ฝังอยู่ในหนังสือเดินทางได้ บันทึกลายพิมพ์นิ้วมือได้ 10 นิ้ว รวมถึงตรวจสอบใบหน้าผู้ถือหนังสือเดินทาง ว่าตรงกับชิพข้อมูลรูปภาพเก่าหรือไม่ ที่สำคัญระบบนี้ยังลึกซึ้งถึงขั้น คนที่ทำศัลยกรรมก็สามารถตรวจสอบได้ด้วยเช่นกัน
ขณะที่ พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 ในฐานะผู้ปฎิบัติงานที่ควบคุมดูแลท่าอากาศยานนานาชาติในประเทศไทย กล่าวว่า เดิมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคนเข้าเมืองได้เพียงดูด้วยตาเปล่า กับภาพถ่ายโดยอาศัยทักษะของเจ้าหน้าที่เท่านั้น แต่ปัจจุบันระบบไบโอเมทริกซ์ ที่ได้มีการนำมาใช้สามารถช่วยในการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ฯ ทำให้การตรวจสอบบุคคลมีความแม่นยำ เพราะมีฐานข้อมูลบุคคลต้องสงสัย หรือบุคคลต้องห้าม จนสามารถคัดกรองบุคคลเข้า-ออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ