ผู้บริหารออโรร่า เตรียมเยียวยาเหยื่อ-ยกระดับปลอดภัย
ผู้บริหาร “ออโรร่า” ประกาศพร้อมเยียวยาเหยื่อ ชี้ไม่เคยเหตุรุนแรงเท่านี้ แม้มีมาตรการรองรับ แต่ยังถูกก่อเหตุบ่อยครั้ง เตรียมยกมาตรฐานความปลอดภัย กำชับพนง.เลี่ยงปะทะ ป้องเหตุเศร้าสลด
ด้านอาสากู้ภัย เล่านาทีระทึก หลังพบคนร้าย ขี่ จยย.พร้อมแต่งกายมิดชิด ชักปืนตั้งแต่ที่จอด เดินปรี่เข้าห้าง กวาดทองแล้ว เดินยิงปืนเปิดทางเพื่อหลบหนี ชี้ก่อเหตุอย่างใจเย็น
บรรยากาศที่ห้างโรบินสัน จ.ลพบุรี หลังเกิดเหตุ เหตุการณ์คนร้ายบุกชิงทอง เมื่อเวลา 16.00 น. ขอวันที่ 10 มกราคม 2563 นายอนิรุทธิ์ ศรีรุ่งธรรม ผู้บริหารห้างเพชรทองออโรร่า เปิดเผยถึงมาตรการเยียวยาผู้เสียหายจากเหตุการณ์คนร้ายบุกชิงทองภายในห้างสรรพสินค้า กลางเมืองลพบุรีว่า จะมีการเยียวยาให้ได้มากที่สุด ซึ่งยอมรับว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่รุนแรงขนาดนี้มาก่อน และมองว่าพฤติการณ์ของคนร้ายไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์แต่ต้องการประทุษร้ายมากกว่า จึงเชื่อว่ามีการเตรียมการ ดูลาดเลาสถานที่เพื่อมาก่อเหตุ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่า การก่อเหตุของคนร้ายประสงค์ดิสเครดิตบริษัท ผู้บริหารห้างเพชรทอง กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่มองในประเด็นนั้น แต่ตั้งคำถามว่าทำไมคนร้ายเลือกก่อเหตุกับร้านทองออโรร่าบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะต้องหารือกับทางห้างในการเพิ่มมาตรการความปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมา มีการกำชับพนักงานอยู่เป็นประจำ หากเกิดเหตุลักษณะนี้ต้องไม่ปะทะเพื่อป้องกันการเกิดเหตุรุนแรง ซึ่งที่ตู้ทุกสาขาจะมีปุ่มสัญญาณแจ้งเตือนไปยังสำนักงานใหญ่อยู่แล้ว
ด้านอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู รายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.ของวันเกิดเหตุ ขณะขับรถกระบะมาจอดที่ลานจอดรถบริเวณด้านหน้าห้างโรบินสัน เพื่อรอรับแฟนกลับบ้าน ก็สังเกตเห็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รายหนึ่งมาจอดด้านหน้าทางเข้าห้าง โดยแต่งกายอำพรางใบหน้ามาตั้งแต่แรก จากนั้นได้หยิบปืนขึ้นมาและเดินเข้าไปในห้างก่อนกราดยิง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ภายในห้าง จึงได้ยินเสียงคล้ายลูกโป่งแตก แต่เมื่อทราบว่าเป็นเหตุชิงทอง จึงวิ่งลงมาพยายามถีบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายเพื่อสกัดการหลบหนี แต่เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ทันเข้าไปภายในห้าง ก็พบคนร้ายกลับออกมาพร้อมกับยิงปืนเปิดทาง ตนจึงวิ่งไปยังรถกระบะของตนเพื่อขับไล่ตามคนร้าย แต่ไม่ทัน หลังจากนั้น ตนได้กลับเข้ามาที่ห้างอีกครั้ง เพื่อให้การช่วยเหลือเด็กชายวัย 2 ขวบนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง
"ตั้งแต่ชักปืนจากที่จอดรถจักรยานยนต์ แล้วมีเสียงดัง เกิดความวุ่นวาย ประมาณ 3-4 นาทีเท่านั้น ก็พบงคนร้ายเดินกลับออกมาพร้อมใช้อาวุธปืนยิงเพื่อเปิดทาง คนร้ายมีลักษณะท่าทางใจเย็น ไม่มีท่าทีรีบร้อนหรือเกรงกลัว" พยานรายเดิม กล่าว