ดีลการค้าเฟสแรก ‘สหรัฐ-จีน’ ผ่านไป อะไรรออยู่ข้างหน้า?
ข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างรัฐบาลสหรัฐกับจีนเป็นผลจากการเจรจาอันยาวนานและเต็มไปด้วยปัญหา ขณะที่ข้อตกลงการค้าเฟสสองก็น่าจะเผชิญเส้นทางอันขรุขระและคาดเดาได้ยากไม่แพ้กัน
ข้อตกลงที่ลงนามโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และ หลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีของจีนในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันพุธ (15 ม.ค.) นับเป็นการสงบศึกการค้าที่กินเวลานานเกือบ 2 ปี
อย่างไรก็ตาม แม้สหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงเฟสแรกแล้ว แต่ยังคงมีคำถามมากมายที่รอคำตอบ
- ใครชนะยกนี้?
“ข้อตกลงการค้านี้ทำให้ทั้ง 2 ประเทศดูดีเลยทีเดียว” ซู เสี่ยวชุน นักเศรษฐศาสตร์ของมูดี้ส์ อนาไลติกส์ เผยกับเอเอฟพี
ประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งกำลังเผชิญกับการไต่สวนเพื่อถอดถอนจากตำแหน่ง สามารถหยิบยกเรื่องข้อตกลงการค้านี้มาเป็นความสำเร็จในนโยบายหาเสียงของเขาเพื่อหวังผลชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในปีนี้
สำหรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ข้อตกลงนี้เป็นการขจัดหนึ่งอุปสรรคในขณะที่เขาต้องรับมือกับปัญหาเร่งด่วนอื่น ๆ อยู่แล้ว รวมไปถึงความวุ่นวายทางการเมืองในฮ่องกงและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
ภายใต้ข้อตกลงเฟสแรก รัฐบาลปักกิ่งตกลงที่จะนำเข้าสินค้าสหรัฐมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ รวมถึงผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหารทะเลอเมริกันมูลค่า 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ นับเป็นชัยชนะสำหรับทรัมป์ เพราะเขากำลังหาทางเพิ่มเสียงสนับสนุนจากรัฐที่นิยมทำเกษตรในสมรภูมิเลือกตั้งปีนี้
อย่างไรก็ตาม ซูระบุว่า เรื่องอื่น ๆ ที่จีนยอมให้สหรัฐ เช่น การปรับปรุงเรื่องการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและการเปิดเสรีการเงินนั้น เป็นเรื่องที่จีนกำลังดำเนินการอยู่แล้ว
“จีนไม่จำเป็นต้องยินยอมทำในเรื่องใดก็ตามที่ไม่เต็มใจทำแต่แรก”
- ข้อตกลงเฟสแรกจะอยู่ยืดไหม?
แม้ว่าจีนให้คำมั่นว่าจะนำเข้าสินค้ามากขึ้นในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่สินค้าการผลิตไปจนถึงสินค้าพลังงาน แต่บรรดานักวิเคราะห์มองว่า ความต้องการภายในประเทศอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดข้อจำกัด
ผลสำรวจความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์โดยเอเอฟพี คาดว่า เศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลงเหลือ 6.1% ในปี 2562 เลวร้ายที่สุดในรอบ 30 ปี
“ถ้าความต้องการสินค้าเกษตรและพลังงานของสหรัฐในจีนไม่เพิ่มขึ้นอย่างฮวบฮาบ จีนอาจจะต้องใช้นโยบายรัฐเปลี่ยนการนำเข้าสินค้าเกษตรและพลังงานจากประเทศส่งออกรายอื่น ๆ มาเป็นนำเข้าสินค้าจากสหรัฐแทน” ทิมเม สแพคแมน และไอริส เผิง นักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทไอเอ็นจี ระบุ
บรรดานักวิเคราะห์กล่าวด้วยว่า ข้อตกลงการค้าสหรัฐ-จีน ไม่ได้สรุปเงื่อนไขการบังคับใช้เพื่อให้จีนทำตามพันธสัญญาเรื่องซื้อสินค้า
เนื้อหาในข้อตกลงระบุชัดว่า การซื้อสินค้าจะอิงตามการพิจารณาในแง่การค้าและระบุว่า เงื่อนไขของตลาดโดยเฉพาะในกรณีของสินค้าเกษตร อาจกำหนดช่วงเวลาการซื้อสินค้าภายในปีใดก็ได้ตามที่ระบุไว้
- ข้อตกลงเฟสสองจะเกิดก่อนเลือกตั้งสหรัฐ?
ทรัมป์กล่าวเมื่อวันพุธว่า เขามีแผนที่จะไปเยือนจีนในอนาคตอีกไม่นานเกินรอ และแม้ว่าการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ยังมีผลอยู่ในขณะนี้ แต่ผู้นำสหรัฐเผยว่า เขาจะเต็มใจยกเลิกการเก็บภาษี “หากสหรัฐและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงเฟสสอง”
อย่างไรก็ตาม การเจรจาการค้ารอบต่อไปก็ดูมีความซับซ้อน เนื่องจากทรัมป์ต้องโฟกัสไปที่การเลือกตั้งในเดือน พ.ย. และการถูกไต่สวนเพื่อาถอดถอนจากตำแหน่งในชั้นวุฒิสภา
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวช่วงต้นเดือนนี้ว่า ข้อตกลงการค้าเฟสสองอาจต้องรอจนหลังจบการเลือกตั้ง
“เราไม่แน่ใจว่าสหรัฐจะมีแรงจูงใจที่จะเดินหน้าเจรจาข้อตกลงอย่างรวดเร็ว” ซูจากมูดี้ส์ระบุ และว่ารัฐบาลปักกิ่งไม่มีเหตุผลที่จะเตะถ่วงเรื่องนี้ เพราะอาจจะเผชิญกับจุดยืนที่แข็งกร้าวจากวอชิงตัน ไม่ว่าทรัมป์หรือตัวแทนพรรคเดโมแครตจะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ
- ข้อตกลงเฟสแรกช่วยยุติความตึงเครียด?
คำตอบสั้น ๆ คือ ไม่!
ข้อตกลงดังกล่าวส่วนใหญ่ยังคงให้มีการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน และไม่ช่วยขจัดเสียงร้องเรียนของสหรัฐกรณีที่จีนให้เงินอุดหนุนมหาศาลแก่รัฐวิสาหกิจ
“แม้เป็นช่วงเริ่มต้น แต่ข้อตกลงนี้ไม่ได้ครอบคลุมประเด็นสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดสงครามการค้าในช่วงแรก” เคอร์สติน บรอน ประธานบริษัทสเตนน์ กรุ๊ป กล่าว
การทำศึกการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นการช่วงชิงความเป็นหนึ่งด้านไฮเทค ซึ่งมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
รัฐบาลวอชิงตันยังคงมาตรการคว่ำบาตร "หัวเว่ย" ยักษ์ใหญ่ด้านเทเลคอมของจีน ซึ่งทางการสหรัฐเกรงว่าอุปกรณ์ของบริษัทอาจสอดแนมข้อมูลให้กับรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน
หอการค้าอเมริกันในจีน ซึ่งสมาชิกได้รับผลกระทบหนักจากสงครามการค้า ระบุว่า วอชิงตันและปักกิ่งยังคงมีงานสำคัญต้องทำเพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างและคาราคาซังเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
อย่างไรก็ดี หอการค้าอเมริกัน เสริมว่า ข้อตกลงการค้าเฟสหนึ่งช่วยสร้างแรงกระตุ้นเชิงบวกที่จะทำให้ปัญหาเหล่านี้มีความคืบหน้า