‘เอโอที’ ยันเชื้อไวรัสโคโรน่าไม่กระทบผลงานปีนี้
“ท่าอากาศยานไทย” คาดเชื้อไวรัสโคโรน่าพันธุ์ใหม่ไม่กระทบผลประกอบการอย่างมีนัยสำคัญ เหตุมีสัดส่วนผู้โดยสารน้อย-เที่ยวบินมาไทยยังมีจำนวนมาก ตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโต 5% จากปีก่อนตามการขยายตัวของยอดผู้โดยสาร พร้อมออกมาตรการรองรับ โดยจัดชาร์เตอร์ไฟลต์
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ยอมรับว่า การระบาดของของเชื้อไวรัสโคโรน่าพันธุ์ใหม่ ณ เมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินการบริษัท แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อผลประกอบการอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากจำนวนเที่ยวบินที่สนใจบินเข้ามาในประเทศไทยยังมีจำนวนมาก ประกอบกับจำนวนผู้โดยสารที่มาจากเมืองดังกล่าวค่อนข้างน้อยโดยมีเพียงหลัก 11,000 คน ซึ่งเทียบกับจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดที่เข้ามาในสนามบินสุวรรณภูมิกว่า 200,000 คนต่อวัน พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโต 5% จากปีก่อนที่ทำได้ 64,994 ล้านบาท ตามจำนวนผู้โดยสารที่คาดว่าจะโต 3-5% จากปีก่อน
ทั้งนี้ที่ผ่านมามีเที่ยวบินที่ทำการบินจากเมืองอู่ฮั่นมายังท่าอากาศยานของทอท.เพียง 4 แห่ง ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, ภูเก็ต และเชียงใหม่ ซึ่งปัจจุบันได้มีการยกเลิกเที่ยวบินไว้ทั้งหมดถึงวันที่ 8 ก.พ.นี้ โดยในส่วนของทอท.ได้มีมาตรการออกมารองรับโดยารจัดไฟลต์บินของเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำหรือที่เรียกว่าชาร์เตอร์ไฟลต์มาทดแทนช่วงเวลาเที่ยวบินที่ถูกยกเลิกไป ขณะที่คณะกรรมการบริษัทยังได้มีนโยบายให้ลดค่านำเครื่องบินลงสนามบิน 50% ให้แก่กลุ่มชาร์เตอร์ไฟลต์อีกด้วย
“ยอมรับว่าปัจจัยดังกล่าวกระทบต่อบริษัทแน่ๆ แต่ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไร เพราะมีสัดส่วนไม่มากเมื่อเทียบกับผู้โดยสารทั้งหมด แต่สิ่งที่กังวลตอนนี้คือเรื่องคนมากกว่า ซึ่งเราก็มีมาตรการป้องกันที่เป็นมาตรฐานที่ทำมาเป็น 10 ปี”
นายนิตินัย กล่าวต่อว่าส่วนแผนการดำเนินงานนั้น บริษัทมีแผนเดินหน้าปรบปรุงสนามบินอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าแผนการรับบริหารสนามบินเพิ่มอีกจำนวน 4 แห่ง ซึ่งมีเป้าหมายสนามบินในพื้นที่ภาคอีสาน เช่น สนามบินอุดรธานีและบุรีรัมย์ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทยังไม่มีสนามบินที่ครอบคลุมในพื้นที่ดังกล่าว