ยกระดับตรวจคนเข้าเมืองต้องมีใบรับรองแพทย์ป้องไวรัสโคโรนา
“อนุทิน” เผยนายกฯย้ำทุกคนในเมืองไทยต้องปลอดภัยจากไวรัสโคโรนา สธ.ต้องออกมาตรการป้องกันระดับสูง เตรียมอุปกรณ์ป้องกันการติด พร้อมยกระดับการตรวจคนเข้าเมืองเป็นสถานการณ์พิเศษ คนจีนเข้าไทยต้องมีใบรับรองแพทย์ ปลอดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
เวลา 13.30 น. วันนี้(31 มกราคม 2563) ที่กระทรวงสาธารณสุข ประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.)ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ห่วงใยสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019โดยให้เน้นการป้องกันโรคให้ทุกคนที่อยู่ในเมืองไทยปลอดภัยจากไวรัสมากที่สุด เพราะชีวิตและสุขภาพของคนถ้าติดเชื้อ ป่วย เสียชีวิตแล้วเอากลับมาไม่ได้
กระทรวงสาธารณสุขต้องมีมาตรการป้องกันระดับสูงสุด เตรียมอุปกรณ์ป้องกันการติด โดยให้กระทรวงพาณิชย์คุมราคาอย่าให้มีใครฉวยโอกาสขึ้นราคาเอาเปรียบกันช่วงนี้ และให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประสานไปยังบริษัทผู้ผลิตและนำเข้าในการเตรียมอุปกรณ์ป้องกันโรคให้เพียงพอ
ส่วนเรื่องสถานพยาบาลที่จะรองรับการดูแลผู้ป่วยยืนยันว่ามีเพียงพอและได้รับการสนับสนุนจากหน่วยแพทย์ทหาร
กระทรวงสาธารณสุข ได้ประสานไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ในการจัดบัญชีข้อมูลนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมาจากประเทศจีนต้องแต่เดือน พ.ย. 2562 จนถึงปัจจุบันว่ามีจำนวน มีรายละเอียดส่วนบุคคลอย่างไรบ้าง เข้าออกในประเทศไทยกี่คน และตอนนี้อยู่ที่ประเทศไทยกี่คน เป็นต้น ซึ่งต้องส่งรายละเอียดให้กระทรวงสาธารณสุข เพราะหากมีการระบาดในประเทศจะได้มีข้อมูลติดตามผู้ที่สงสัยว่าเป็นพาหะนำเข้า
นอกจากนั้น จะยกระดับการตรวจคนเข้าเมืองเป็นสถานการณ์พิเศษ คนที่จะเดินทางเข้ามประเทศไทยต้องมีใบรับรองแพทย์ว่าปลอดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ไม่มีความเสี่ยงจากประเทศต้นทาง
มอบหมายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวให้ศึกษาผลกระทบและนำเสนอมาตรการให้ความช่วยเหลือ หากจำเป็นต้องใช้มาตรการจำกัดการเข้าเมือง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน คนอาจจะกังวลเรื่องกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหากออกมาตรการเข้มนี้ ต้องเรียนว่าถึงอย่างไรก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนคนไทย
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะสื่อสารกับสังคม 3 ระดับคือ
1.ระดับรัฐบาล จะมีแถลงข่าวผ่านคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งจะมีการตั้งโฆษกเพื่อทำหน้าที่แถลง
2.ระดับปฏิบัติการจะเป็นหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ให้ปลัดกระทรวง อธิบดีกรมควบคุมโรค หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
3.ระดับของการตอบโต้สถานการณ์ข่าวสารรายวัน จะมีโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ให้ข้อมูล พร้อมร่วมมือกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตรวจสอบและดำเนินการเอาผิดคนปล่อยข่าวเท็จ
มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท ส่วนการให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนกระทรวงสาธารณสุขตั้งศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารเพียงจุดเดียว เพื่อเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ทันต่อสถานการณ์ ป้องกันข้อมูลซ้ำซ้อน โดยมีอธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นผู้อำนวยการศูนย์บริการข้อมูลข่าวสาร