ปธ.เฟดแอตแลนตา ชี้ไวรัสระบาด ไม่เปลี่ยนมุมมองศก.สหรัฐ
ประธานเฟดแอตแลนตาชี้ไวรัสโคโรน่าระบาดไม่ได้เปลี่ยนมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะหัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ระบุ การระบาดของไวรัสโคโรน่าฉุดส่งออกของประเทศ
นายราฟาเอล บอสติค ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ไม่ได้เปลี่ยนมุมมองของเขาที่มีต่อนโยบายการเงิน และภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ
“หากเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นระดับโลก โดยส่งผลกระทบต่อหลายประเทศ ก็จะถือเป็นเหตุการณ์พิเศษที่จะแตกต่างออกไปจากที่ผมเข้าใจในขณะนี้ แต่เมื่อพิจารณาจากประสบการณ์ในอดีตของเราที่เคยเจอเรื่องเหล่านี้มาก่อน ผมไม่คิดว่ามันจะเปลี่ยนแปลงมุมมอง หรือการคาดการณ์ของผมต่อทิศทางการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเรา” นายบอสติค กล่าว พร้อมเสริมว่า“เราได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 3 ครั้ง และกำลังส่งผลต่อเศรษฐกิจ ดังนั้นเราจะรอดูต่อไป ซึ่งนั่นถือเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมาก และจะทำให้สามารถรับมือกับเหตุการณ์แพร่ระบาดในครั้งนี้” เขากล่าว
นอกจากนี้ นายบอสติค ยังกล่าวว่า “ขณะที่เงินเฟ้อยังคงมีเสถียรภาพ และการจ้างงานใกล้เต็มศักยภาพ บรรดาผู้นำในภาคธุรกิจไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะเปลี่ยนแปลงแผนการจ้างงานและการลงทุน ดังนั้นจึงเป็นการส่งสัญญาณให้ผมว่า เศรษฐกิจจะยังคงเดินหน้าต่อไป”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดกำลังจับตาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่อย่างใกล้ชิด และแม้เขาคาดว่าการระบาดดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน แต่ก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่จะชะลอการพุ่งขึ้นของการส่งออกจากสหรัฐที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีน
“เป็นความจริงที่ว่า การส่งออกที่จะเกิดจากการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกจะล่าช้าออกไป อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสในจีน” นายคุดโลว์กล่าว
อย่างไรก็ดี นายคุดโลว์ยังคงคาดการณ์ว่า สหรัฐจะได้รับผลกระทบไม่มากนักจากการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่
“โลกเราไม่ได้มีแค่มณฑลอู่ฮั่น” นายคุดโลว์กล่าว