'คาเธ่ย์ แปซิฟิก'ซวนเซ-ถูกกระหน่ำซ้ำ'ประท้วง-ไวรัส'
ปีนี้่ถือเป็นปีแห่งวิบากกรรมซ้ำซัดสำหรับสายการบินเก่าแก่และเป็นสายการบินขนาดใหญ่สุดของฮ่องกงอย่างแท้จริงเพราะเจอทั้งการประท้วงยืดเยื้อและเจอทั้งไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ระบาด
การชุมนุมประท้วงที่ยืดเยื้อในฮ่องกงและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ในจีนทำให้“คาเธ่ย์ แปซิฟิก” สายการบินชั้นนำของฮ่องกงเผชิญหน้ากับบททดสอบครั้งสำคัญ
เมื่อ6เดือนที่แล้ว “ฟิออน” พนักงานให้บริการบนเครื่องบินของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก แอร์เวย์ส พยายามเลี่ยงไม่สวมหน้ากากอนามัยเพราะกลัวว่าจะถูกนำไปโยงว่าเป็นพวกสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่สร้างความปั่นป่วนแก่ฮ่องกงและสร้างความวิตกกังวลไปทั่วโลก
แต่ตอนนี้ เธอจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยในเที่ยวบินที่ไปและออกจากจีนแผ่นดินใหญ่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ที่ขณะนี้ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 500 คนและทำให้มีผู้ติดเชื้อกว่า30,000 คนนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดในเมืองอู่ฮั่น เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
ความสับสนในเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยของ“ฟิออน”สะท้อนถึงความท้าทายสองเรื่องที่เกิดกับสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก ที่ถือเป็นสายการบินเก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดของฮ่องกง แต่ขณะที่ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่เป็นข่าวพาดหัวตามหน้าสื่อทั้งสื่อกระแสหลักและสื่อโซเชียล บททดสอบที่สำคัญสำหรับสายการบินแห่งนี้อาจจะอยู่ที่การบริหารจัดการอย่างไรให้เกิดสมดุลในฐานะเป็น“หนึ่งบริษัท สองระบบ”
ในช่วงต้นปี 2562 บรรดานักลงทุนพากันหายใจทั่วท้องมากขึ้นหลังจากสายการบินคาเธ่ย์ สามารถทำกำไรได้เป็นครั้งแรกในรอบ3ปี และจัดทำแผนปรับโครงสร้างได้เป็นผลสำเร็จ แต่การชุมนุมประท้วงที่ยืดเยื้อยาวนานหลายเดือนก็เป็นอุปสรรคสกัดกั้นการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในฮ่องกงของบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติ ยอดผู้โดยสารของสายการบินที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ช่วยกระตุ้นให้ราคาหุ้นของสายการบินฟื้นตัวในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
จากนั้นก็เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ และทางการจีนยืนยันว่ามีการแพร่เชื้อไวรัสชนิดนี้ระหว่างคนสู่คนเมื่อวันที่ 20 ม.ค พร้อมทั้งรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตและติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด วานนี้ (7ก.พ.) คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติจีนเผยยอดผู้เสียชีวิตในประเทศรวมทั่วโลก 638 คน ผู้ติดเชื้อใหม่ในจีนยืนยันแล้ว 31,161 คนและนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด ราคาหุ้นของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก ร่วงลงไป 13% ขณะที่บรรดานักลงทุนในเอเชีย ซึ่งยังจำได้ดีถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส เมื่อปี 2546 ต่างกลัวว่าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดยังมาไม่ถึง
ปีนี้่ถือเป็นปีแห่งวิบากกรรมซ้ำซัดสำหรับสายการบินเก่าแก่และเป็นสายการบินขนาดใหญ่สุดของฮ่องกงอย่างแท้จริง เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน"ออกัสตุส ถัง"ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) คาเธ่ย์แปซิฟิก แถลงผ่านวีดิโอถึงพนักงาน 27,000 ของบริิษัทขอให้ลาหยุดได้ถึง 3 สัปดาห์โดยไม่ได้รับค่าจ้างระหว่างเดือน มี.ค.-มิ.ย.
“ผมหวังว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือ ตั้งแต่พนักงานส่วนหน้าไปจนถึงผู้บริหารอาวุโส และช่วยแบ่งปันความท้าทายที่กำลังเผชิญอยู่ด้วยกัน”
คำขอนี้เกิดขึ้นในช่วงที่คาเธ่ย์กำลังสิ้นหวัง ปีที่แล้วต้องเผชิญกับการเมืองฮ่องกงโกลาหลและเหตุประท้วงนานหลายเดือน ตอนนี้เสียหายหนักไปกว่าเดิมจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่พบครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่น ทางภาคกลางของจีนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แล้วแพร่ระบาดไปทั่วช่วงตรุษจีน ที่ถือว่าเป็นช่วงพีคสุดช่วงหนึ่งของสายการบิน แต่กลายเป็นว่าสายการบินนานาชาติหลายสิบแห่งลดหรือหยุดบินไปจีน เพื่อระงับการแพร่ระบาดในช่วงที่จำนวนผู้โดยสารลดฮวบไม่มีใครอยากเดินทาง
ถัง กล่าวด้วยว่า คาเธ่ย์กำลังเผชิญวันหยุดตรุษจีนที่ยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่เคยเจอเพราะไวรัส
“แล้วเราก็ไม่ทราบว่าเหตุการณ์จะดำรงอยู่ไปอีกนานแค่ไหน ด้วยความไม่แน่ไม่นอนแบบนี้ การเก็บเงินสดว่าน่าจะเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาธุรกิจให้รอด ผมรู้ดีว่ายากจะทำใจเมื่อได้ยินแบบนี้ และเราอาจให้มาตรการที่จำเป็นเพิ่มเติมอีก แต่การสนับสนุนโครงการลาพักพิเศษ คุณจะได้รับความช่วยเหลือเมื่อคุณต้องการ"
ซีอีโอคาเธ่ย์ ยังขอให้ซัพพลายเออร์ลดราคาสินค้า และในระยะสั้นคาเธ่ย์จะปรับลดจำนวนที่นั่งลง เพิ่มเติมจากที่ลดเที่ยวบินทั่วโลกลง 30% เป็นเวลา 2 เดือน ส่วนเที่ยวบินไปจีนแผ่นดินใหญ่ลดลง 90% ซึ่งครั้งสุดท้ายที่คาเธ่ย์ขอให้พนักงานลาหยุดโดยไม่รับค่าจ้าง เกิดขึ้นในปี 2552 หลังเกิดวิกฤติการเงินโลก
สำหรับเศรษฐกิจฮ่องกงขณะนี้อยู่ในภาวะถดถอย เสียหายหนักทั้งจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐ และการประท้วง พอมาเจอไวรัสระบาดยิ่งไปกันใหญ่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบันเทิงเสียหายหนักมาก ฮ่องกงมีผู้ติดเชื้อ 21คน เสียชีวิต 1 คนเมื่อวันอังคาร (4 ก.พ.)
'สถานการณ์ไวรัสโคโรน่า'