'เคทีซี' ชี้พิษเศรษฐกิจ-ไวรัส 'ฉุด' ยอดรูดบัตรเครดิต
“บัตรกรุงไทย” คาดกำไรปีนี้ยังโตต่อเนื่อง สวนทางยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่คาดโตต่ำเป้าที่ตั้งไว้ 15% เหตุเศรษฐกิจชะลอตัว-ผลกระทบไวรัสโคโรนา ชี้คนหันใช้เงินสดมากขึ้น ดันสินเชื่อส่วนบุคคลโต 10% เล็งออกหุ้นกู้ปีนี้อีก 1-1.2 หมื่นล้านบาท
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ากำไรของบริษัทในปี 2563 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน แต่ยังไม่สามารถระบุเป้าหมายได้ เนื่องจากต้องดูผลจากการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 ก่อน สำหรับยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เบื้องต้นคาดว่าอาจเติบโตไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ที่ 15% จากปีก่อน หลังเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว และผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
ผลการดำเนินงานในช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ยอมรับว่าอาจมีผลกระทบบ้าง รายได้ต่ำกว่าเป้าบ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าทีมผู้บริหารยังทำผลงานได้ดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยสิ่งที่เป็นห่วงในตอนนี้คือคุณภาพของสินทรัพย์ เพราะเมื่อเศรษฐกิจไม่ดี คนหันมาใช้เงินสดมากขึ้น จึงทำให้ต้องคอยติดตามว่าเมื่อลูกค้าเอาเงินไปแล้ว จะมีวิธีการนำเงินกลับมาใช้คืนอย่างไร
ส่วนของมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลายเรื่องที่จะออกมานั้น ส่วนตัวมองว่าจะไม่มีผลกระทบต่อบริษัท โดยเฉพาะการกำหนดวงเงินชำระขั้นต่ำจาก 10% ลดลงเหลือ 5% นั้น คาดว่าตอนที่ธปท.ประกาศออกมาเพื่อผ่อนผันกรณีที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรนาเท่านั้น และไม่ได้บังคับผู้ประกอบการให้ดำเนินการ รวมถึงตอนนี้ยังไม่มีลูกค้าของบริษัทขอปรับลดวงเงินชำระขั้นต่ำ ซึ่งหากต้องดำเนินการบริษัทจะต้องพิจารณาโดยดูความจำเป็นของลูกค้าก่อน
“เรื่องคุณภาพสินทรัพย์ที่ด้อยลง เรามีการดูแลลูกค้ากลุ่มนี้เป็นพิเศษ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรม เรายังรับมือได้ดีกว่า โดยสถานการณ์โดยรวมแย่ลงกว่าเดิม แต่คิดว่าพอร์ตของเรายังสกรีนได้ดีมาก ซึ่งเราเชื่อว่าช่วง 2-3 เดือนนี้ยังเอาอยู่ หากมีอะไรมากระทบแรง ๆ” นายระเฑียร กล่าว
ส่วนยอดสินเชื่อส่วนบุคคลปีนี้ คาดจะเติบโตประมาณ 10% จากปีก่อน หรือคิดเป็นมูลค่าการปล่อยสินเชื่อใหม่ราว 210,000 ล้านบาท สำหรับกลยุทธ์ธุรกิจสินเชื่อบุคคลในปีนี้ บริษัทจะเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการหาสมาชิกใหม่ที่มีความต้องการสินเชื่อและรักษาฐานสมาชิกปัจจุบันให้มีความผูกพันกับเคทีซี อีกทั้งจะมีผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างความพึงพอใจ ในส่วนของสมาชิกบัตรเครดิตนั้น ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนบัตรใหม่อีก 320,000 บัตร จากปัจจุบันอยู่ที่ 2,460,595 บัตร
เขากล่าวต่อว่า แผนงานปีนี้บริษัทจะมี 3 ธุรกิจใหม่เข้ามา ประกอบด้วย ธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ พิโกไฟแนนซ์ และสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกัน ภายใต้ชื่อ “KTC พี่เบิ้ม” ซึ่งคาดว่าทั้ง 3 ธุรกิจจะสามารถสร้างกำไรให้เติบโตแบบก้าวกระโดดได้ภายในปี 2564-2565 หลังจากปัจจุบันบริษัทได้ทยอยเปิดให้บริการแล้ว ส่วนด้านหนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในปี 2563 ตั้งเป้ารักษาไว้ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 1%
นอกจากนี้ จากทิศทางดอกเบี้ยขาลง บริษัทยังตั้งเป้าที่จะออกเสนอขายหุ้นกู้ปีนี้อีกจำนวน 1-1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้สำหรับจ่ายคืนหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนด (รีไฟแนนซ์) และใช้สำหรับรองรับการขยายตัวของธุรกิจ รวมถึงมีแผนจะขอวงเงินการออกหุ้นกู้จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพิ่มอีก 3 หมื่นล้านบาท หลังจากวงเงินที่ขออนุมัติไว้ก่อนหน้านี้เหลือวงเงินเพียง 1 หมื่นล้านบาท