'แบงก์' เร่งรับมือศก.ชะลอ 'กรุงไทย' เกาะติดลูกค้า ช่วยปรับหนี้ป้อง 'เอ็นพีแอล' พุ่ง
“แบงก์พาณิชย์” เร่งตั้งรับพิษไวรัสโคโรนาฉุดเศรษฐกิจชะลอ “กรุงไทย” สั่งเกาะติดลูกหนี้ใกล้ชิด ลั่นพร้อมให้การช่วยเหลือผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ป้องปัญหาเอ็นพีแอลพุ่งด้าน “ทีเอ็มบี” เกาะติดสถานการณ์ไวรัส เร่งบริหารหนี้เสียให้ลดลงมากสุด
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวยอมรับว่า แนวโน้มหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธนาคารมีโอกาสขยับขึ้นเล็กน้อย จากสิ้นปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ระดับ 4.3% เนื่องจากคุณภาพลูกหนี้เริ่มอ่อนแอลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมทั้งยังเผชิญปัจจัยท้าทายใหม่ ๆ เข้ามา ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีที่เข้ามาดิสรัปธุรกิจด้วย
ดังนั้นเพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้นของเอ็นพีแอล ธนาคารจึงต้องเข้าไปช่วยประคับประคองลูกหนี้ที่เริ่มมีสัญญาณไม่ดี โดยเข้าไปเร่งปรับโครงสร้างหนี้ล่วงหน้า ซึ่งถือเป็นการทำงานเชิงรุก รวมทั้งปรับลดดอกเบี้ยและการผ่อนชำระของผู้กู้ลง เพื่อบริหารจัดการเอ็นพีแอลไม่ให้สูงขึ้น
ส่วนภาพรวมสินเชื่อของธนาคาร ยังไม่ปรับเป้าลง จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3-5% ในปีนี้ แม้ว่าเป้าสินเชื่อดังกล่าวมีความเสี่ยง และความท้าทายมากขึ้น หลังแนวโน้มการขยายตัวเศรษฐกิจมีแนวโน้มลดลง แต่เชื่อว่า หลังจากที่พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายของภาครัฐออกมา เชื่อว่าจะเป็นแรงหนุนต่อเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นได้
“วันนี้แต่ะละที่มีการเป้าจีดีพีตลอด การเติบโตเศรษฐกิจก็เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา เมื่อจีดีพีปรับลด เป้าสินเชื่อก็ไม่สามารถฝืดจีดีพีได้มาก ดังนั้นช่วงเวลานี้ก็เป็นช่วงแห่งการประคอง ซึ่งปีนี้คาดว่าโตไม่เกิน 5% ยอมรับว่ามีความเสี่ยงและต้องจับตาใกล้ชิด”
สำหรับกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมปรับโครงสร้างการคิดค่าธรรมเนียมทั้งระบบ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์กว่า 200-300 รายการนั้น ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อธนาคารบ้าง เพียงแต่ผลกระทบจะน้อยกว่าธนาคารอื่น ๆ เนื่องจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยของธนาคารมีค่อนข้างน้อย โดยผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้ค่าธรรมเนียมส่วนใหญ่มาจากธุรกิจนอกแบงก์ เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อรถยนต์ ซึ่งธนาคารไม่ได้เป็นผู้ให้บริการโดยตรง ผลกระทบจึงไม่มากนัก
ส่วนภาพรวมดิจิทัลแบงกิ้ง ธนาคารเชื่อว่า ปีนี้ การใช้โมบายแบงกิ้ง ผ่าน Krungthai NEXT จะเพิ่มเป็น 11 ล้านบัญชี จากปัจจุบัน ที่ยอดใช้งานโมบายแบงกิ้ง อยู่ที่ 7 ล้านบัญชี ซึ่งถือว่าเติบโตก้าวกระโดด
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยที่ผันผวนตามปัจจัยเสี่ยงใหม่ๆ ที่เข้ามากระทบ เช่น การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อรายได้และกำไรของอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์พอสมควร ในส่วนของ ทีเอ็มบี ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะทบทวนแผนธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม ธนาคารเชื่อว่าในส่วนของสินเชื่อรวมปีนี้ ยังสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อรวมปีนี้ในระดับที่ทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย ซึ่งในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ต้องคอยประเมินสถานการณ์เป็นระยะ
“ธนาคารเตรียมบริหารจัดการหนี้เสียให้ลดลงมากที่สุด เพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในปีนี้” นายปิติ กล่าว
ส่วนกรณีที่ ธปท. เตรียมปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมใหม่ทั้งระบบนั้น เขากล่าวว่า ผลกระทบในส่วนนี้ไม่ได้มากนัก เนื่องจากที่ผ่านมาธนาคารให้บริการโดยไม่ได้คิดค่าธรรมเนียมเป็นหลักอยู่แล้ว