เผย 'นายกฯ' จะปราบยาเสพติดจนกว่าจะตายกันไปข้าง หรือจนกว่าจะไม่มีรัฐบาล
"สมศักดิ์" ขับเคลื่อนนโยบายสกัดกั้นยาเสพติดภาคเหนือตอนล่าง เผย "บิ๊กตู่" ต้องการแก้ปัญหายั่งยืน ลั่นจะปราบปรามจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง หรือจนกว่าจะไม่มีรัฐบาล
เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 63 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในหมู่บ้านและชุมชนนำร่อง พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างเป็นพื้นที่ลำเลียงผ่านของยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยกลุ่มขบวนการมักจะหลีกเลี่ยงเส้นทางสายหลักที่มีด่านและจุดตรวจที่มีความเข้มงวด ไปใช้เส้นทางสายรองแทน เพื่อลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่กรุงเทพมหานครและพื้นที่ตอนใน ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจ ตนเห็นว่ากลยุทธ์สำคัญประการหนึ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งสร้างแนวป้องกันยาเสพติดในพื้นที่ โดยใช้หมู่บ้าน/ชุมชน เป็นฐานในการทำงาน ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีในการร่วมดำเนินโครงการ โดยได้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ เดือน พ.ย. 2562 มีพื้นที่เป้าหมายใน 5 จังหวัด คือ จ.ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ และ 3 อำเภอใน จ.กำแพงเพชร ได้แก่ อ.พรานกระต่าย ไทรงาม และลานกระบือ ครอบคลุมพื้นที่ 5,280 หมู่บ้าน/ชุมชน ใน 57 อำเภอ
"รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีเจตนารมณ์ในการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยนายกฯ กำชับกับผมเสมอว่าให้เข้มงวดจริงจัง และเน้นย้ำในมาตรการป้องกันมากกว่าปราบปราม ซึ่งการขจัดยาเสพติดนั้นถือเป็นนโยบายเร่งด่วนทุกปี และท่านนายกฯ ได้ย้ำว่าจะปราบปรามจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง หรือจนกว่าจะไม่มีรัฐบาล" นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การสร้างพื้นที่ปลอดภัยนี้ มีหัวใจสำคัญอยู่ 2 ประการ คือ การมีส่วนร่วมของประชาชนในหมู่บ้านและชุมชน กระตุ้นให้พวกเขาร่วมคิดวิเคราะห์ปัญหาและร่วมป้องกันและเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านชุมชนของตนเอง และการสนับสนุนจากหน่วยราชการ โดยดำเนินการอย่างบูรณาการ หากหัวใจทั้ง 2 ดวง เดินไปด้วยกันแล้วจะทำให้การดำเนินการเพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดเกิดสัมฤทธิ์ผลด้วยความต่อเนื่องยั่งยืน โดยความสำเร็จของการสร้างพื้นที่ปลอดภัยนี้ สามารถพิจารณาได้ 3 เรื่องหลัก ๆ ได้แก่ 1ความสำเร็จในการป้องกัน 2 ความสำเร็จในการบำบัดรักษา และ 3 ความสำเร็จในการปราบปราม ความสำเร็จนี้ ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณยาเสพติดที่จับกุมได้ แต่อยู่ที่การขยายผลสืบสวนตัดวงจรการค้ายาเสพติด