'ช่อ พรรณิการ์' โฆษกแกร่ง แห่ง 'พรรคอนาคตใหม่'
ดีกรีปริญญาโทมหาวิทยาลัยชื่อดังของอังกฤษ TOP 5 ของโลก สู่อาชีพสื่อ 6 ปี ทำให้ "ช่อ" พรรณิการ์ วานิช กลายเป็นโฆษกทรงพลังของพรรคอนาคตใหม่
การเมืองไทยช่วง 10 ปีหลังมานี้ ผู้หญิงเริ่มมีบทบาทในสภาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตแม่ทัพใหญ่พรรคเพื่อไทยสมัยหนึ่ง จนถึง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และนักการเมืองรุ่นใหม่อย่าง ตั๊น จิตภัสร์, มาดามเดียร์ วทันยา และคนที่มีประเด็นฮอตตลอดปีคงหนีไม่พ้น เจ้าของเอกลักษณ์แววตามุ่งมั่น พูดจาฉะฉาน สื่อสารได้ตรงประเด็น อย่าง "ช่อ" พรรณิการ์ วานิช หญิงแกร่งแห่งพรรคอนาคตใหม่
ตั้งแต่การประกาศตนว่าเป็น โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ในวันที่15 มีนาคม 2561 ณ ตอนนี้ปี 2563 นับระยะเวลารวมกว่า 2 ปีแล้ว ที่ชื่อของ ช่อ พรรณิการ์ ได้อยู่บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์หลายต่อหลายครั้ง ไม่นับรวมในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เรียกว่าโฆษกพรรคอนาคตใหม่ คนนี้ทำหน้าที่ตนเองอย่างเต็มความสามารถไม่น้อยหน้าโฆษกพรรคอื่นๆ
โดยอาชีพเดิมก่อนลงเล่นการเมืองคือการทำงานที่สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี รับหน้าที่เป็นพิธีกรรายการสารคดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทยและประเทศอาเซียน iASEAN, พิธีกรรายการข่าวต่างประเทศ Voice World Wide, พิธีกรรายการวิเคราะห์ข่าวการเมืองและเศรษฐกิจ, พิธีกรรายการวาไรตี้
ช่อ พรรณิการ์ ให้เหตุผลว่า ‘ที่เลือกทำอาชีพสื่อเพราะเชื่อมั่นว่าคืออาชีพหนึ่งที่มีพลังเปลี่ยนแปลงสังคมไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ด้วยการนำเสนอข่าวสาร ข้อมูล ที่ประชาชนควรมีสิทธิ์ได้ร่วมรับรู้ ในฐานะเจ้าของประเทศที่แท้จริง’
จากการสั่งสมประสบการณ์ด้านการสื่อสารประเด็นสังคมนานถึง 6 ปีเต็มทำให้พรรคอนาคตใหม่สื่อสารได้อย่างมีอิทธิพลและประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม
โดยหน้าที่โฆษกพรรคอนาคตใหม่ของ ช่อ พรรณิการ์ นั้นจุดเริ่มต้นเกิดจากการชักชวนของคู่หูพรรคอนาคตใหม่อย่าง ธนาธร และ ปิยบุตร
ช่อ พรรณิการ์ให้สัมภาษณ์ว่าใช้เวลาตัดสินใจแค่ 2 วันและมีเหตุผล คือ "สื่อกับนักการเมืองใกล้กันมาก ซึ่งนักการเมืองต้องสื่อสารกับประชาชน เป็นอาชีพที่ไม่ได้มีคุณค่าแค่เงินทอง แต่มีอุดมการณ์จุดยืน จึงน่าจะต่อยอดไปได้"
แต่ใช่ว่าแค่สื่อสารเก่งอย่างเดียวจะเพียงพอสำหรับหน้าที่โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ช่อ พรรณิการ์ มีดีกรีเรียนจบระดับปริญญาตรีจาก คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (International Relations) และระดับปริญญาโท MSc Global Politics, London School of Economics and Political Science (LSE) กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังของอังกฤษ และถือเป็นสถาบันด้านสังคมศาสตร์ที่ติดอันดับ TOP 5 ของโลก ความครบเครื่องทั้งความคิดและความสามารถของ ช่อ พรรณิการ์ สะท้อนออกมาเป็นคำพูดหรือคำแถลงการณ์ต่างๆ ของพรรค
"เราเลือกที่จะเงียบในเรื่องไม่มีสาระ และกล้าหาญที่จะพูดในเรื่องที่มีคุณค่ามีสาระต่อสังคม” คติของ ช่อ พรรณิการ์ ต่อประเด็นที่เกิดขึ้นทั้งหลาย
เริ่มตั้งแต่การถูกวิจารณ์เรื่องลักษณะท่าทางส่วนตัว การแต่งตัวเข้าสภาจนคุณหญิงหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ วุฒิสมาชิก ออกมาท้วงติงถึงการแต่งกายไม่เหมาะสม และถูกพาดพิงจากนักการเมืองฝั่งตรงข้าม
“สิ่งที่พบเจอและแก้ยากก็คือ อคติ ไม่ใช่เรื่องเพศอย่างเดียว ยังรวมถึงความหลากหลายทางเพศด้วย อคติคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด ทำลายความสวยงามของสังคม ทั้งๆ ที่บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณเกลียดเขาเพราะอะไร แต่คุณเกลียด เมื่อเกลียดก็อคติไม่ฟังใคร ทำแบบนั้นไม่มีทางอยู่อย่างสันติได้” ช่อ พรรณิการ์ กล่าว
เรื่องชุดขาวดำเข้าสภาครั้งแรกไม่ใช่ประเด็นดราม่าเพียงเรื่องเดียวของ ช่อ พรรณิการ์ เพราะตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ทำหน้าที่โฆษกพรรคเรื่องราวต่างๆ ก็ถาโถมเข้ามา โดยก่อนหน้าที่จะมีดราม่าเรื่องชุดเข้าสภาในเดือนพฤษภาคม 2562 นั้น ในเดือนมิถุนายนมีเรื่องของสังคมโซเชียลขุดภาพตั้งแต่ปี 2553 สมัยยังเป็นนักศึกษาปริญญาตรีของ ช่อ พรรณิการ์ แล้วเกิดประเด็นเรื่องเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ และภายในเดือนนั้น อุ๊ หฤทัย นักร้องก็ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องภาพของ ช่อ พรรณิการ์ ให้เป็นประเด็นร้อนแรงอีกครั้ง
ในเดือนถัดมาอย่างเดือนกรกฎาคมก็มีประเด็นของ อมิตา ทาทา ยัง คอมเมนต์ในไอจีของเพื่อนคนหนึ่งโดยมีเนื้อหากล่าวพาดพิงไปถึง ช่อ พรรณิการ์
เดือนสิงหาคม ช่อ พรรณิการ์ เดินทางไปที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ ยื่นฟ้อง ปารีณา ไกรคุปต์ ในความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ มาตรา 328 กรณีโพสต์ข้อความและรูปภาพบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่มีเนื้อหาเป็นข่าวปลอม มีเนื้อความเป็นเท็จ พร้อมกับภาพตัดต่อ ที่มี "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ "พรรณิการ์ วานิช" โฆษกพรรคอนาคตใหม่ รวมทั้งคณะทำงานของพรรคฯ ในลักษณะที่อาจทำให้สังคมเข้าใจผิดได้ ว่า พรรคอนาคตใหม่ มีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการก่อเหตุรุนแรงหลายจุดในกรุงเทพมหานคร
ในช่วงเวลาหลังจากนั้น ปารีณา เดินทางไปที่ สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ "พรรณิการ์" หลังได้มีการแถลงข่าวต่อว่าใส่ร้ายปารีณาให้ได้รับความเสียหาย ในข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมนำคลิปการแถลงข่าวมาเป็นหลักฐาน
เดือนพฤศจิกายน บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ยื่นฟ้องพรรณิการ์ วานิช ในฐานความผิด หมิ่นประมาท และหมิ่นประมาทด้วยโฆษณา
และที่จะถึงเร็วๆนี้คือวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมเพื่อลงมติคำร้องคดี ยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีเงินกู้ 191 ล้านบาท สรุปได้ว่า ถ้าเกิดการยุบพรรค หนึ่งในกรรมการพรรคอนาคตใหม่อย่าง ช่อ พรรณิการ์ วานิช คงจะถูกแบนจากการลงเล่นการเมืองไปด้วยเช่นกัน
โดยช่อ พรรณิการ์มีความเห็นว่า “จะทำให้ผู้มีอำนาจได้เห็นว่า การยุบพรรคไม่มีความหมายเพราะอนาคตใหม่ ไม่ใช่แค่พรรคที่มีผลทางกฎหมาย แต่เราคือคนทุกคนที่รวมตัวกันด้วยอุดมการณ์”
เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่อุดมการณ์ต่อสังคมทำให้ ช่อ พรรณิการ์ วานิช ยังเป็น ช่อ พรรณิการ์ วานิช แห่งพรรคอนาคตใหม่อยู่ทุกวันนี้ ถ้าจะมีประกวดรางวัลโฆษกพรรคประเด็นเยอะแห่งปี รางวัลนี้ คงหนีไม่พ้นมือเธอ!
สรุปผล (21 กุมภาพันธ์ 2563) ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยขององค์คณะตุลาการ ได้มีมติสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 92 ในคดีกู้เงิน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค จำนวน 191.2 ล้านบาท ขัดต่อรัฐธรรมนูญและ เพิกถอนสิทธิกรรมการบริหาร และ ห้ามจดทะเบียนตั้งพรรคใหม่ เป็นเวลา 10 ปี ตามมาตรา 94