'อุตตม' กล่อมนักลงทุนสถาบัน ฟื้นเชื่อมั่น! ย้ำปลดล็อกงบปี 63 เงินเข้าระบบทันที 3.5 แสนล้าน
“อุตตม” พบ นักลงทุนสถาบัน หวังช่วยฟื้นความเชื่อมั่นลงทุน ย้ำพร้อมออกมาตรการดูแลเศรษฐกิจต่อเนื่อง ระบุ “ระยะสั้น” เตรียมเร่งออกมาตรการกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยว พร้อมเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนส่วนราชการ-รัฐวิสาหกิจ
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังพบปะนักวิเคราะห์และนักลงทุนที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างแน่นอนเมื่อสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายทั้งการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ “โควิด-19” สงครามการค้าคลี่คลาย มาตรการรัฐที่จะอัดเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ รวมถึง การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งงบลงทุนส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ
เขากล่าวว่า ได้แจ้งให้นักลงทุนทราบว่า รัฐบาลมีแนวทางในการดูแลเศรษฐกิจอย่างไร โดยระยะสั้น จะมีมาตรการเข้าไปดูแลภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด โควิด-19 ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการ ขณะเดียวกัน จะเร่งรัดการเบิกจ่ายทั้งงบลงทุนส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ
สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาทนั้น ทางสำนักงบประมาณได้แจ้งต่อคณะรัฐมนตรีว่า ในช่วงที่เหลือประมาณ 6 เดือนจะสามารถเบิกจ่ายได้ 80% โดยงบลงทุนใหม่จำนวน 6.4 แสนล้านบาท ได้ประเมินว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้หมดภายในไตรมาสสามของปี แบ่งเป็น 3.5 แสนล้านบาท เบิกจ่ายได้ทันทีหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ และ อีก 9.6 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างการทำทีโออาร์ คาดจะเบิกจ่ายในไตรมาสสอง และ อีก 2.4 แสนล้านบาท จะเบิกจ่ายได้ในไตรมาสสามของปีนี้
ส่วนงบประมาณรายจ่ายประจำนั้น ได้เร่งรัดให้ส่วนราชการเร่งเบิกจ่ายโดยกระตุ้นให้จัดฝึกอบรมสัมมนาให้เร็วขึ้น ขณะเดียวกัน จะจัดงบเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจด้วย โดยเมื่อกระทรวงมหาดไทยประกาศพื้นที่ภัยแล้งงบดังกล่าวจะลงระบบเศรษฐกิจทันที
“รวมๆแล้ว สำนักงบประมาณแจ้งว่า งบ 63 จะเบิกจ่ายได้มากกว่า 80% เพราะเรามีเวลาจำกัด โดยไตรมาสสามจะเบิกจ่ายได้ 70-77%ของวงเงินงบประมาณ”
สำหรับงบลงทุนรัฐวิสาหกิจนั้น มีจำนวน 3.5 แสนล้านบาท คาดจะเบิกจ่ายได้ราว 1 แสนล้านบาทในช่วงมี.ค. นี้
นายอุตตม กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำด้วยว่า ต้องดูแลเศรษฐกิจในระยะสั้นเพื่อบรรเทาผลกระทบผลักดันให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนในระยะยาวต้องมีการลงทุนตามแผนยุทธศาตร์ชาติที่วางไว้ เพื่อเป็นการวางรากฐานของเศรษฐกิจในระยะยาว ต้องเดินคู่ขนานกับการดูแลเศรษฐกิจในระยะสั้น
สำหรับผลกระทบต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยว ได้ชี้แจงว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประเมินว่า ผลกระทบเริ่มแล้ว แต่ถ้าเหตุการณ์คลี่คลายประมาณเดือนมิ.ย. - ก.ค. การท่องเที่ยวจะพลิกฟื้นขึ้นได้ โดยสัปดาห์ที่แล้วได้ประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อร่วมหาแนวทางดังกล่าว
เมื่อถามว่า กรณีสหรัฐอเมริกาเตรียมยกให้ไทยเป็นประเทศบิดเบือนค่าเงินรัฐบาลมีแผนรับมืออย่างไร เขากล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้ประเมินใกล้ชิด และ หารือร่วมกันตลอด ไม่ต้องห่วง เราจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นแน่นอน