ทิ้งฝ่ายค้าน! '33 ส.ส.' อดีตพรรคอนาคตใหม่ จ่อซบรัฐบาล

จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ในคดีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปล่อยเงินกู้ 191.2 ล้านบาท พร้อมตัดสินกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 16 คน โดยมี 10 คน ที่มีสถานะ ส.ส. ทำให้ ส.ส.ของพรรคอนค. เหลือ 65 คน ที่ต้องหาพรรคการเมืองสังกัด ภายใน 60 วัน

ล่าสุดมีรายงานข่าวจากรัฐสภาแจ้งว่า นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิไทย (ภท.) ได้ทำหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 25 ก.พ. เพื่อแจ้งให้ทราบว่ามีส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่จำนวน 9 คน ได้ขาดจากความเป็นสมาชิกภาพของพรรคอนาคตใหม่ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคอนาคตใหม่

โดยเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 9 คนได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 นายกฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส.แพร่ เขต 2 นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 ร้อยตำรวจมณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม เขต10 นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ เขต 1 นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภนมณี ส.ส.กทม. เขต 23 และนายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ

เมื่อหนังสือดังกล่าวได้ส่งถึงนายชวนแล้ว จะส่งผลให้พรรคภูมิใจไทยมีสมาชิกในสภาฯ จาก 52 คน เพิ่มขึ้น 9 คน เป็น 61 คน ส่งผลให้เป็นพรรคการเมืองที่มีลำดับใหญ่เป็นลำดับที่ 3 ของประเทศ แทนพรรคประชาธิปัตย์ และใหญ่เป็นอันดับสองของพรรคร่วมรัฐบาล

ขณะเดียวกันยังมีรายงานอีกว่า พรรคภูมิใจไทย ต้องการดึงส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ มาร่วมงานกับพรรคเพิ่มเติมอีก 4 คน ซึ่งจะทำให้พรรคภูมิใจไทย ดึงอดีตส.ส.พรรคอนาคตใหม่ มาร่วมงานทั้งหมด 13 คน 

นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้สูงที่พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคจะดึง ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ไปร่วมงานอีก 10 คน และพรรคร่วมรัฐบาลที่เคยอยู่กับขั้วฝ่ายค้านจะดึง ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ไปร่วมงานอีก 10 คนเช่นกัน

ทั้งนี้หากพรรคร่วมรัฐบาลดึงส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ไปร่วมงานได้ตามเป้าหมายจำนวน 33 คน จะทำให้พรรคการเมืองที่ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่จะเข้าสังกัด เหลือเพียง 37 คนเท่านั้น

‘อนุทิน’ยันรับ9 งูเห่าสีส้มเข้าภท.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนยังไม่ได้มีโอกาสได้พบกับส.ส.ทั้ง 9 คน ส่วนหนังสือที่ทำถึงประธานสภาฯ ก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ขั้นตอนต่อไปคือการส่งใบสมัครแจ้งไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อแจ้งแล้วก็จะเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยอย่างสมบูรณ์

“ส่วนจะมีการต้อนรับอย่างเป็นทางการหรือไม่นั้น ผมคิดว่าเราทำงาน มาทำงานไม่มีอะไรต้องฉลอง อย่างที่ตนเรียนว่าพรรคภูมิใจไทยก็เปิดกว้าง และสิ่งที่ทำลงไปก็อยู่ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และบ้านหลังใหม่ไม่ใช่บ้านที่จะทำให้สมาชิกทุกคนมีความสุขสบายใจ แต่บ้านหลังนี้เข้ามาต้องทำให้ประชาชนสบายใจ และทำให้ประชาชนได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องให้ประโยชน์กับประชาชน ไม่ใช่ให้ประโยชน์กับคนในบ้าน บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคนทำงาน”

ส่วนที่ตอนนี้พรรคภูมิใจไทยขยับขึ้นมาเป็นพรรคการเมืองที่มีเสียง ส.ส. เป็นอันดับ 2 ของพรรคร่วมรัฐบาล ตนไม่ได้คิดตรงนี้เลย ขอให้เป็นพรรคที่มีบทบาทสามารถทำงานได้ในหน่วยงานที่กำกับดูแล และทำงานให้เกิดความเจริญแก่บ้านเมือง นั่นคือสิ่งที่เราอาสามาทำงาน เราไม่ได้มาเดินเกมการเมือง เพราะเราอ่อนเรื่องการเมือง แต่แข็งเรื่องการทำงาน

 

“ปิยบุตร”ผิดหวังภท.ดูดส.ส.

นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านทวิเตอร์เช้านี้ ระบุว่า “ผมเป็น ส.ส.สมัยแรก เจอนักการเมืองอาวุโสรุ่นพี่ ก็ยกมือไหว้ทักทายให้เกียรติกัน ทั้งพี่หนู อนุทิน พี่ศักดิ์สยาม พี่สรอรรถ พี่ชาดา พี่บุญลือ สัปดาห์ที่แล้ว หลายคนจากภูมิใจไทย ก็ให้กำลังใจผมเต็มไปหมด แต่สุดท้าย ก็ดูดส.ส.อนค.ไป ช่วยกันถามหน่อยครับว่าเก่งมาจากไหนได้ไปทีเดียว 9 คน”

“เราจะปล่อยให้การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เพื่อดึง ส.ส.กลายเป็นเรื่องปกติอย่างนั้นหรือ นักการเมืองรู้ สื่อรู้ ประชาชนรู้ แต่ทำไมเราทำอะไรไม่ได้ นี่หรือคือผลลัพธ์ของการปฏิรูป 5 ปีที่ผ่านมา อนค.ตั้งใจทำการเมืองโปร่งใส แต่ถูกยุบ สุดท้ายประเทศไทยต้องการพรรคดูด ส.ส. แบบนี้หรือ”

“ศุภชัย”จ่อฟ้องถูกอ้างคลิปเสียง

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ถูกโน้มน้าวเป็นเจ้าของคลิปเสียงที่ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่นำมาเปิดเผย อีกทั้งเพจ “พระเจ้า” ระบุว่าคนในพรรคภูมิใจไทยติดต่อซื้องูเห่าว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้อง และการกระทำดังกล่าวต้องการสื่อให้เห็นว่าพรรคภูมิใจไทยเข้าไปเกี่ยวข้องในการเจรจาทุ่มเงิน 23 ล้านบาท แม้ว่าในเพจดังกล่าวจะปิดหน้าผู้ชายคนหนึ่ง จึงขอย้ำว่าไม่ใช่ตนหรือคนของภูมิใจไทย และขอเรียกร้องไปยังเพจดังกล่าวให้แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง พร้อมทั้งอยากได้คำขอโทษจากเจ้าของเพจไม่เช่นนั้นตนจะดำเนินคดีอาญาอย่างถึงที่สุด

“ใครก็ตามที่ไปแสดงความคิดเห็นกล่าวถึงผมในทางที่เสียหาย ต้องออกมาขอโทษให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีด้วยทุกคน เพราะผมเสียหาย ผมเป็นนักการเมืองมานาน และตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนตามอุดมการณ์ที่ตั้งไว้ เพราะฉะนั้นอย่ามากล่าวหาหรือดูถูกดูแคลนกันด้วยวิธีการเป็นนักเลงคีย์บอร์ด ขอให้เลิกนิสัยแบบนี้ และขอโทษผมให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดี” นายศุภชัย กล่าว

“สนธิรัตน์”ชี้จำนวนไม่เกี่ยวปรับครม.

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงคลิปเสียงที่ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ อ้างว่ามีคนจากรัฐบาลเสนอเงินเพื่อชักชวนเข้าสังกัด ว่า ตนเพิ่งทราบข่าวเมื่อคืนมีคลิปเสียงคล้ายส.ส.ของพปชร. มีคนส่งมาให้ แต่ยังไม่ได้เปิดฟัง เบื้องต้นยังเป็นเพียงการกล่าวอ้าง ต้องขอไปตรวจสอบก่อนว่าเป็นใคร

ขอยืนยันตนไม่ได้ส่งคนไปทาบทามส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ และคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะไปกระทบกับการปรับครม. พรรคร่วมรัฐบาลอยู่ด้วยกัน เราพูดคุยกัน เราไม่ได้อยู่กันแบบนับตัวเลข ถ้าดูจากการจัดครม.ที่ผ่านมา จะเห็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลพยายามขับเคลื่อนรัฐบาลให้ไปให้ได้ จึงไม่อยากให้เอาเรื่องตัวเลขมาตีความ และการจะปรับครม.นั้น อยู่ที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ

“ผู้กองมนัส”ชี้ซื้อ23ล.เหลือ3ปีไม่คุ้ม

ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องการเสนอเงิน 23 ล้านบาทในการดึง ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ มาร่วมฝั่งรัฐบาล แต่ถ้าดูด้วยเหตุด้วยผลไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเงิน 23 ล้านบาท กับอีก 3 ปีที่จะถึง และในสถานการณ์เช่นนี้ ฝ่ายรัฐบาลก็มีเสียงที่เข้มแข็งอยู่แล้ว

“ชวน”ชี้หากพบเอาผิดได้ตามก.ม.

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เรื่องซื้อตัวส.ส.ต้องไปว่ากันตามกฎหมาย ว่าผิดข้อกฎหมายอะไรบ้าง เรื่องนี้ไม่ค่อยปรากฏ คนซื้อคนขายไม่ปรากฏตัว เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ สมมติมีการทำอะไรที่ไม่ถูกต้องก็มีกฎหมายทั้งประมวลกฎหมายอาญา กฎหมายพรรคการเมือง และกฎหมายอื่นๆ “นายชวนกล่าว

นายชวน กล่าวต่อว่า ในฐานะนักการเมืองอาวุโส ตนเห็นว่าทุกคนมีหน้าที่ก็ต้องทำหน้าที่ ซึ่งตนเชื่อว่าการทำหน้าที่คือสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ พูดตามคำพระ อย่างท่านพุทธทาสภิกขุ การปฏิบัติหน้าที่คือการปฏิบัติธรรมะ และธรรมะก็คือหน้าที่ แต่ต้องเป็นหน้าที่ที่สุจริต ซึ่งในฐานะนักการเมืองก็ต้องทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติ