‘โกแบร์’ ปรับกลยุทธ์ รับ ‘โควิด-19’ ระบาด

นางอชิรญา ภวะคงบุญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกแบร์ (ประเทศไทย) จำกัด  เจ้าของเว็บไซต์เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงิน  "GoBear.com"  เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การตลาดหันมาเน้นนำเสนอประกันโควิด-19 ที่กำลังได้รับความสนใจในขณะนี้  ทดแทนประกันเดินทางที่ลดลง เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้คนเดินทางน้อยลง มีผลให้การซื้อประกันเดินทางลดลงไปด้วย โดยคาดว่าจะกระทบตลาดในช่วงเดือนมี.ค.เป็นต้นไป  แต่คาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวน่าจะส่งผลกระทบในระยะสั้น  หวังว่าปลายปีนี้ตลาดจะฟื้นตัวได้

“เราเป็นบริษัทดิจิทัล ทำให้ปรับตัวและปรับเปลี่ยนเม็ดเงินการตลาดได้เร็ว ตามสถานการณ์รายวัน ทำให้เรายังมีรายได้เติบโตถึงเป้าหมายในช่วง2เดือนมานี้ แต่หลังจากนี้ คงต้องหารายได้จากสินค้าประกันอื่นๆมาเสริม  ทดแทนประกันเดินทางที่สร้างรายได้ให้บริษัทมากที่สุด ”

สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าต่อยอดอีโคซิสเต็ม  เพิ่มรูปแบบธุรกิจให้ครอบคลุมและครบวงจรมากขึ้น  ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมยื่นขอใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) คาดว่าจะยื่นได้ในไตรมาสแรก และเริ่มดำเนินธุรกิจใหม่ได้ภายในปลายปีนี้

อีกทั้ง บริษัทเตรียมร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ประกันภัยระดับโลก 2 ราย เพื่อช่วยให้บริษัทแกร่งขึ้นมากกว่าเดิม คาดว่าจะเปิดตัวรายแรกได้ในช่วงกลางปีนี้ และจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า ด้วยสิทธิพิเศษต่างๆจากพาร์ทเนอร์  ทำการตลาดเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีความสนใจเรื่องการเงินและใช้บริการทางการเงินออนไลน์เป็นประจำ

ในปีนี้ บริษัทวางเป้าหมาย จะส่งต่อโอกาสในการสร้างเบี้ยประกันภัยมากกว่า 3,000ล้านบาท ให้กับพาร์ทเนอร์บริษัทประกัน และเติบโตเฉลี่ย30% ต่อปีในระยะข้างหน้า จากในช่วง4ปีที่ผ่านมา มีบริการในการหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากกว่า 300 รายการ สร้างยอดขายให้กับพาร์ทเนอร์บริษัทประกัน เช่นประกันรถยนต์ ประกันการเดินทาง และประกันชีวิต มากกว่า 50 ราย เป็นเบี้ยประกันมากกว่า 10,000ล้านบาท และสร้างโอกาสทางการขายมากกว่า 3ล้านโอกาส ให้กับสถาบันการเงิน  ทั้งบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อต่างๆ  

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายในระยะ3ปีข้างหน้า (2564-2566) เป็น “Financial Supermarket”  นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินครบวงจร โดยลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านเว็บไซต์ได้ทันที จากปัจจุบันเป็นเว็บไซต์เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงินเท่านั้น โดยที่ลูกค้าต้องไปชำระเงินกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ทางการเงินนั้นๆอยู่

ปัจจุบัน โกแบร์ มีเงินลงทุนทั้งหมด 80 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2,500 ล้านบาท ทำตลาดใน7ประเทศทั่วเอเชีย คือ ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม และไทย สร้างรายได้เติบโต20%ต่อไตรมาส มีบริการในการหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากกว่า 1,800 รายการ มีพาร์ทเนอร์มากกว่า100รายใน7ประเทศ โดยมีคนเข้าเว็บไซต์มากกว่า40ล้านคน นับตั้งแต่ก่อตั้ง