สมาคมวินฯ ยื่นอุทธรณ์มติยึดเสื้อวิน ชงแกร็บแก้ไขระเบียบรับผู้โดยสาร ลดความแย้ง

สมาคมวินฯ ยื่นอุทธรณ์มติยึดเสื้อวิน ชงแกร็บแก้ไขระเบียบรับผู้โดยสาร ลดความแย้ง

สมาคมวินมอไซค์รับจ้าง เตรียมยื่นอุทธรณ์ หากอนุกรรมการ 4 ฝ่ายเขตคลองเตย มีมติยึดเสื้อวิน ชี้กฎหมายครอบคลุมแค่ทะเลาะกับวินด้วยกันและกับผู้โดยสาร พร้อมเสนอแกร็บ แก้ไขระเบียบการรับผู้โดยสารในพื้นที่เสี่ยง ลดความแย้ง

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 63 นายเฉลิม ชั่งทองมะดัน นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย บอกภายหลังการเข้าให้ข้อมูลและเสนอความเห็นต่อคณะอนุกรรมการ 4 ฝ่ายประจำเขตคลองเตย นานกว่า 3 ชั่วโมง ในการพิจารณาลงโทษผู้ขับขี่วินรถจักรยานยนต์ก่อเหตุทำร้ายผู้ขับขี่แกร็บรับจ้าง ปากซอยสุขุมวิท 48 ว่า ในที่ประชุมคณะอนุกรรมการมีความเห็นที่จะตัดสิทธิ์ผู้ขับขี่ที่กระทำผิด ตนเองจึงเสนอว่า ให้มีการคาดโทษไว้ก่อน หากเกิดเหตุซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ค่อยตัดสิทธิ์ เพราะมองว่าเป็นโทษที่เหมาะสมกว่าที่ไม่ได้ฟังความทั้งสองข้างแล้วไปตัดสิทธิ์ เนื่องจากก่อนเกิดเหตุวินไม่ได้ตั้งใจเข้าไปทำร้ายร่างกาย เพียงแค่เข้าไปตักเตือน แต่ทางผู้ขับขี่แกร็บให้ของลับกลับมาทำให้เกิดเหตุทะเลาะกัน ส่วนการตัดสิทธิ์ของวินรถจักรยานยนต์นั้นจะตัดสิทธิ์ได้ก็ต่อเมื่อกระทำความผิดต่อผู้โดยสาร ไม่ใช่การทะเลาะกับคู่กรณี และตามกฎระเบียบของวินรถจักรยานยนต์หากจดทะเบีบนในเขตไหนก็จะสามารถรับผู้โดยสารได้เฉพาะเขตนั้น แตกต่างจากแกร็บที่สามารถรับผู้โดยได้ทั่วไปทุกพื้นที่ จึงทำให้เกิดความขัดแย้ง และที่ผ่านมาพยายามที่ย้ำเตือนสมาชิกว่าไม่ควรใช้อารมณ์และให้พูดคุยกันดีๆ

158322156888

ทั้งนี้ มองว่าต้นตอของปัญหา คือ การยังไม่ได้แก้กฎหมาย และที่ผ่านมาในหลายรัฐบาล มีการปราบปรามมาเฟีย และจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์มาโดยตลอด แต่บริษัทที่รับผู้โดยสารผ่านแอพพิเคชั่น ก็พยายามที่จะผลักดันให้เกิดการแก้กฎหมายรองรับ แต่เนื่องจากกฎหมายยังไม่ได้ดำเนินการแก้ไข จึงทำให้ยังคงเป็นปัญหาขัดแย้งกัน ดังนั้น จึงมองว่า วินรถจักรยานยนต์ไม่ได้ขัดแย้งแต่ถูกยั่วยุให้กระทำ และสร้างสถานการณ์ว่าวินใช้ความรุนแรงมาตลอด

นายเฉลิม ยังบอกถึงแนวทางการลดความขัดแย้งด้วยว่า ได้คุยกับหลายภาคส่วน ในการหาวิธีลดความขัดแย้ง ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ที่ควรจะให้ภาครัฐเป็นผู้ดูแล เพื่อแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้เกิดการเอาเปรียบประชาชน แต่ยังไม่มีความชัดเจน ส่วนแนวทางเร่งด่วนที่จะเป็นทางออกร่วมกัน ระหว่างวินรถจักรยานยนต์ และบริษัทวินเอกชน หรือ แกร็บ นั้น มองว่า ควรที่จะรับฟังคำตักเตือนซึ่งกันและกัน หากมีการตักเตือนว่าจุดดังกล่าวรับผู้โดยสารไม่ได้ เพื่อให้เรื่องจบ และมองว่า บริษัทควรจะแก้ไขปรับลดกฎระเบียบ ให้สามารถยกเลิกการเลือกรับผู้โดยสารในพื้นที่เสี่ยงได้ เพราะปัจจุบัน ผู้ให้บริการแกร็บ หากกดยกเลิกการให้บริการจะไม่สามารถเข้ามารับงานได้อีก ดังนั้นจึงเป็นที่มาของความขัดแย้ง เพราะผู้ให้บริการยังคงต้องพยายามที่จะรับงานให้สำเร็จ อีกทั้งยังมองว่าควรจะไปรับผู้โดยสารในพื้นที่ ห่างจากจุดตั้งวิน เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกไม่ได้ต่อกัน

ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการ 4 ฝ่าย ได้รับฟังความคิดเห็น และอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะมีบทสรุปของการลงโทษอย่างไร แต่หากมีมติ ตัดสิทธิ์เพื่อนสมาชิกวินรถจักรยานยนต์ทั้ง 3 คน ทางสมาคมฯก็จะเตรียมเข้าสู่ขั้นตอนการยื่นอุทธรณ์สิทธิ์ เพื่อให้เห็นถึงเหตุผลของการตัดสิทธิ์ที่ชัดเจนขึ้น และหากยื่นอุทธรณ์ไม่เป็นผล ก็จะนำไปสู่การยื่นฟ้องต่อศาลปกครองด้วย