เปิดเวทีรับฟังความเห็นแก้รัฐธรรมนูญปี 60 คิกออฟที่พิษณุโลก
คณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 60 เปิดเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังและรวบรวมความคิดเห็นจากประชาชน เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เริ่มคิกออฟที่จังหวัดพิษณุโลกเป็นแห่งแรก
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 มี.ค.ที่ห้องประชุมกาสะลอง ชั้น 8 อาคารมหาวชิราลงกรณ (ตึก ม.) วิทยาลัยการจัดการและพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม อ.เมือง จ.พิษณุโลก รศ.ดร.โชติ บดีรัฐ คณบดีวิทยาลัยการจัดการและพัฒนาท้องถิ่น ให้การต้อนรับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ตัวแทน กมธ. พร้อมด้วย ดร.เอกพันธุ์ ปิณฑวณิช ผอ.สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะ กมธ. และ ผู้อำนวยความสะดวกในการประชุม (Facilitator) เดินทางมาร่วมเปิดเวทีถกแถลงแจงรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังและรวบรวมความคิดเห็นจากประชาชนเกี่ยวกับปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 โดยมีกลุ่มตัวแทนจากทั้งภาคประชาชนทุกภาคส่วน อดีตข้าราชการ นักศึกษา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็น จำนวนมากกว่า 60 คน
ทั้งนี้หลายภาคส่วนได้มีดำริที่ให้มีการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน โดยรัฐบาลได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนภายใน 1 ปี ในการสนับสนุนให้มีการศึกษา การรับฟังความเห็นของประชาชน และการดำเนินการเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ รวมทั้งภาคการเมือง ภาควิชาการ และภาคประชาสังคมที่มีดำริว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเป็นโอกาสในการแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรม และปัญหาจากแนวนโยบายที่ขาดการมีส่วนร่วม ทั้งนี้สภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญดังกล่าวได้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการอีก 2 ชุด ได้แก่ คณะอนุกรรมาธิการศึกษาวิเคราะห์บทบัญญัติรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่น และคณะอนุกรรมาธิการประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
ในการนี้เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการรับฟังและรวบรวมความคิดเห็นจากประชาชนเกี่ยวกับปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และจัดทำเป็นความเห็นเสนอต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 นั้น สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล จึงร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในการจัดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนดังกล่าว โดยเลือก จ.พิษณุโลก เป็นแห่งแรกสำหรับเวทีถกแถลงแจงรัฐธรรมนูญ ซึ่งในวันนี้การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากภาคประชาชน จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการนำเสนอความเห็นผ่านกลไกลของรัฐสภา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดมากขึ้น เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ
ด้านนายสัตวแพทย์ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคอิสระ อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ หนึ่งในผู้เข้าร่วมเวทีครั้งนี้ เปิดเผยว่า ถือเป็นนิมิตหมายอันดีเพราะว่า จ.พิษณุโลก ยังไม่เคยมีเวทีที่จะมาพูดถึงปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งตอนนี้เริ่มเห็นชัดเจนแล้วว่าปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2560 ที่ลองใช้มา 2 ปี มีจำนวนมากจริงๆ แต่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องยากมาก จึงต้องการความคิดเห็นร่วมกันของคนทั้งประเทศ และคาดหวังว่าการถกปัญหาร่วมกันในวันนี้จะเป็นส่วนหนึ่งให้ประเทศชาติเดินหน้าไปต่อได้