‘ซิซซ์เล่อร์’สู้โควิด-19 ลุยสะดวกซื้อ‘ทูโก’ งัด‘แวลูมีล’ปั๊มยอด
นับเป็นห้วงเวลาที่ท้าทายของร้านสเต๊กซิซซ์เล่อร์! ต่อการรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ปริมาณลูกค้าเข้าร้านลดน้อยลงแต่ในวิกฤติก็เป็นโอกาสสำหรับธุรกิจใหม่ “ทู โก” ที่มาได้จังหวะ พร้อมใส่เกียร์เดินหน้าขยายตลาดควบคู่บริการ “ดีลิเวอรี”
กรีฑากร ศิริอัฐ ผู้จัดการทั่วไป และ นงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เอส แอล อาร์ ที จำกัด ผู้ให้บริการร้านอาหาร แบรนด์ “ซิซซ์เล่อร์” กล่าวว่า แนวทางธุรกิจของซิซซ์เล่อร์มุ่งพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ ซิซซ์เล่อร์ ทู โก (Sizzler to go) ภายใต้แนวคิด “เฮลท์ตี้ ออน เดอะ โก” (HealthyOn The Go) ในรูปแบบคีออสขนาดเล็ก พื้นที่ 3 ตร.ม. สาขาแรกบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดง เจาุกลุ่มคนทำงาน คนรักสุขภาพ และผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า ประเดิม 3 เมนูยอดนิยม สลัดและแซนวิช ราคาเริ่มต้น 79 บาท น้ำผลไม้สกัดเย็น100%
เป็นการทำให้ลูกค้าซื้อสะดวก! มากขึ้น
ปีนี้จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 4-5 แห่งกระจายในสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส, เอ็มอาร์ที และย่านอาคารสำนักงาน เพื่อศึกษาและทดลองตลาดในการพัฒนาธุรกิจที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าแต่ละทำเล นำสู่การขยายตลาดต่อเนื่องในอนาคต
“ผู้ประกอบการต้องปรับตัว ซึ่งแพลตฟอร์ม ทู โก ตอบโจทย์สะดวกซื้อ ด้วยจุดขายราคา และแบรนด์ที่ลูกค้ารู้จัก ทำให้มีการตอบรับที่ดี รวมทั้งธุรกิจดีลิเวอรี เติบโตสูงมากกว่า 50% ในเดือน มี.ค.”
ปีนี้ ซิซซ์เล่อร์ โฟกัส ดีลิเวอรี ซึ่งช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาธุรกิจโตมากกว่า 100% ตามพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่เน้นสะดวก และวิกฤติโควิด-19 ทำให้ “ดีลิเวอรี” เป็นทางเลือกแรกสำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการออกจากบ้าน
ทั้งนี้ ซิซซ์เล่อร์ จะมีการพัฒนาเมนูใหม่ให้มีความเหมาะสมกับบริการดีลิเวอรี จากเดิมจะใช้เมนูเดียวกับประทานในร้าน เช่น สเต๊ก โดยจะเพิ่มเมนูประเภทแซนวิช ซุป ข้าวหมูทอดทงคัตสึ รวมทั้ง สปาเกตตี้ต้มยำ ไก่ย่างสไปซี่ ไข่ออนเซ็น
คาดว่ากระแสดีลิเวอรีฟีเวอร์จากการทำตลาดเชิงรุกของซิซซ์เล่อร์ รวมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการอย่าง แกร็ปฟู้ด ฟู้ดแพนด้า ไลน์แมน ฯลฯ ทำให้ตลาดขยายตัวอย่างรวดเร็ว ผลักดันให้สัดส่วนยอดขายในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นสูงเป็น 20-30% ในสิ้นปี 2563 จากเดิมสัดส่วนดังกล่าวน่าจะใช้เวลาอีก 2-3 ปีข้างหน้า ขณะที่ก่อนสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามแผนธุรกิจ “ดีลิเวอรี” ปีนี้คาดทำยอดขายราว 10%
บริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมนูอาหารใหม่ในกลุ่ม “นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต” และ “เมนูเพื่อสุขภาพ” ควบคู่กับการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย “แวลู มีล” เน้นราคาที่เข้าถึงได้! โดยเฉพาะช่วงกระตุ้นการขายในระยะสั้นนี้
โดยสินค้านวัตกรรม เริ่มจาก เฮลท์ตี้ วีแกน ชอยส์ (Healthy Vegan Choice) ในกลุ่ม “แพลนต์เบส” (Plant Based) เป็นสเต๊กเนื้อสัตว์จากธัญพืช 100% เป็นอาหารแห่งอนาคต เมนู ประกอบด้วย ออมนิเคอร์รี่ สเต๊ก กับ สปาเกตตี้ กะเพรา และบียอร์น คาราเมลไลซ์ ออนเนี่ยน เบอร์เกอร์ กับสไปซี่โคลสลอร์ ราคาเริ่มต้น 329 บาท และ 399 บาท จำหน่ายถึง 31 มี.ค.
"เมนูแพลนต์เบส เจาะกลุ่มผู้รับประทานอาหารมังสวิรัติ และกลุ่มคนรักสุขภาพ มากขึ้นเป็นหนึ่งในฟู้ดเทรนด์ป้องกันการขาดแคลนเนื้อสัตว์ในอนาคต หรือในอีก 30 ปีข้างหน้าที่เนื้อสัตว์อาจจะหมดไปจากโลก"
ขณะเดียวกัน ใช้กลยุทธ์ราคาผ่าน “แวลู มีล” ชุดสุดคุ้ม 209 และ 259 ในวันธรรมดา และมา 4 จ่าย 3 วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ โดยจะยืนกลยุทธ์ราคายาวทั้งปี
ขณะเดียวกันเตรียมขยายสาขาเพิ่มต่อเนื่อง 2-3 แห่ง จากปัจจุบันเปิดบริการ 57 แห่ง อยู่ในกรุงเทพฯ 31 แห่ง ต่างจังหวัด 26 แห่ง
ซิซซ์เล่อร์ ยังใช้ช่วงเวลานี้ในการเตรียมพร้อมหลังบ้าน ทั้งการเทรนนิ่ง บริการ ต่างๆ ทำให้ลูกค้าประทับใจมากที่สุด
“เราพยายามมองบวก เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายภายในครึ่งปีแรกนี้ การเตรียมตัวให้พร้อมจะสร้างความได้เปรียบ เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปลูกค้าจะรักและกลับมาหาเรา”
ที่ผ่านมามีหลายวิกฤติการณ์ที่เป็นบทเรียนและผ่านพ้นมาได้ ยกตัวอย่าง น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ซึ่งลูกค้าออกจากบ้านไม่ได้ ทำให้ธุรกิจได้รับผลกระทบราว 3 เดือน ดังนั้นกลับมาที่การเตรียมความพร้อมจะทำให้การขับเคลื่อนธุรกิจเดินหน้าไปได้