‘จิตรลดา’ กับ 9 แรงจูงใจ ‘ทำไมต้องฆ่า’
เปิด 9 ปริศนาทางจิตวิทยาเปลี่ยน “จิตรลดา” ให้กลายเป็นฆาตกร “โรคจิต” ในสายตาสังคม
ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิทยาและที่ปรึกษาโครงการ ศูนย์พัฒนาศักยภาพมนุษย์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) เคยแยกปัจจัยที่นำไปสู่การลงมือฆ่าซึ่งสัมพันธ์กันระหว่าง กาย ใจ อารมณ์ และสังคมไว้ 9 ลักษณะได้แก่
- ความแค้น
- แผลใจ (Trauma) หรือ ภาวะสะเทือนขวัญ
- ภูมิหลังของบุคลิกภาพ (Sociopathic)
- การฆ่าโดยหน้าที่
- โรคจิต
- พฤติกรรมเลียนแบบจากสื่อ
- ลัทธิ
- ตระหนกตกใจ (Panic)
- อำนาจและผลประโยชน์
“อย่างการเกิดทรอมาขึ้นกับคนเราจะเกิดผลที่ตามมา 3 อย่างคือ โถมใส่ (ต่อสู้) ถอยหนี หรือนิ่งชั่วขณะ สมมติว่า เขาอยู่ในช่วงของวัยรุ่นพอโตขึ้นมาความแค้นมันระเบิดก็ไปฆ่าคนอื่น หรือพวกอาฆาตสังคมที่ถูกทำร้ายจากสังคม ซึ่งมีทั้งสิ่งมีชีวิต หรือสิ่งไม่มีชีวิต อย่างภัยธรรมชาติ ฝรั่งจะเจอบ่อย หิมะถล่ม เมื่อเขาจะถูกฆ่าฉะนั้นเขาจึงต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด หรือสังคมทอดทิ้งเขา เขาลำบากยากจนก็ไม่สนใจเขา คิดว่าโลกนี้โหดร้าย เขาจึงต้องการทำลายสังคม ไม่เกี่ยวกับจิตสำนึกที่เจาะจงว่าเป็นใครแล้ว ไม่เกี่ยวกับจิตไร้สำนึกที่มีตัวตนแต่จำไม่ได้ แต่นี่คือมันมั่วไปหมด เป็นใครก็ได้ ก็เป็นมือปืนอาชีพ รับจ้างฆ่า ทำร้ายได้หมด ไม่รู้สึกถึงเรื่องบาปบุญคุณโทษ” ดร.วัลลภตั้งข้อสังเกต
ขณะที่คำอธิบายใจฝั่งตำรวจกองปราบปราม ได้แยกประเภทแรงจูงใจตามหลักอาชญวิทยาในการก่อเหตุฆาตกรรมในมุมมองที่ต่างออกไป โดยตำรวจ แบ่งคนร้ายเกี่ยวกับการฆาตกรรมออกเป็น 4 กลุ่ม
- กลุ่มแรก คือ ฆาตรกรธรรมดา (Murderer) ฆาตรกรธรรมดาจะฆ่าคนด้วยสาเหตุพื้นฐาน
- กลุ่มที่สอง คือ ฆาตกรต่อเนื่อง (serial killer) กลุ่มนี้เป็นความผิดปกติทางจิต จิตใต้สำนึก
- กลุ่มที่สาม คือ การฆ่าแบบบันเทิงใจ ความผิดปกติทางอารมณ์ (spree killer) โดยเรื่องนี้การศึกษายังไม่เป็นวงกว้างมากนัก
- กลุ่มที่สี่ คือ ฆาตกรรมหมู่ (Mass Murder)
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เกิดการประทุษร้ายจนถึงชีวิตจะมีหลายสาเหตุ แต่ทั้งหมดล้วนเป็น ‘ผลกระทบ’ ที่เข้าไป ‘ทำลาย’ และก่อให้เกิดเอกลักษณ์ความสูญเสียทั้งตัวตน ร่างกาย และจิตใจอันนำไปสู่พฤติกรรมการทำลายล้างของคนๆ นั้นในที่สุดนั่นเอง
ตัว จิตรลดา เอง และผู้ก่อเหตุรายอื่นๆ ก็อาจจะอยู่ในมูลเหตุสมมติฐานนี้ได้เช่นเดียวกัน