'ราคาน้ำมันดิบ' ส่อเค้าทรุดต่อ หลัง 'โอเปกพลัส' ลดกำลังผลิตน้อย
ท่ามกลางข่าวดีว่าตลาดน้ำมันดิบโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะ "โอเปกพลัส" เห็นพ้องลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบวันละ 9.7 ล้านบาร์เรล แต่โกลด์แมน แซคส์ คาดว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังอยู่ในช่วงขาลงต่อไป เนื่องจากโอเปกพลัสลดกำลังการผลิตน้อยเกินไป
โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ระบุว่า การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 9.7 ล้านบาร์เรล/วันนั้น ถือว่าน้อยเกินไป และยังไม่มากพอที่จะช่วยชดเชยผลกระทบของดีมานด์น้ำมันที่ทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะร่วงลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากสต็อกน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่ากลุ่มโอเปกพลัสได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตเพื่อลดอุปทานน้ำมันในตลาดโลกก็ตาม
ทั้งนี้ กลุ่มโอเปกพลัส ได้บรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการประชุมฉุกเฉินรอบที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (12 เม.ย.) โดยที่ประชุมเห็นชอบให้ปรับลดกำลังการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ไปจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ กลุ่มโอเปกพลัส ยังมีมติปรับลดการผลิต 8 ล้านบาร์เรล/วัน ตั้งแต่เดือนก.ค.ไปจนถึงสิ้นปี 2563 และจะปรับลด 6 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือน ม.ค. 2564 ไปจนถึงเดือน เม.ย. 2565
มติดังกล่าว มีขึ้นในการประชุมฉุกเฉิน ซึ่งจัดขึ้นในวันอาทิตย์และนับเป็นการประชุมรอบที่ 2 หลังจากที่โอเปกพลัสได้จัดการประชุมเบื้องต้นเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยในการประชุมวันดังกล่าว ที่ประชุมได้ข้อตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 10 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ค.-มิ.ย. แต่ในการประชุมครั้งนั้น เม็กซิโก ปฏิเสธที่จะทำตามข้อเรียกร้องของโอเปกพลัสที่ต้องการให้เม็กซิโกปรับลดกำลังการผลิต 400,000 บาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ดี ภายใต้ข้อตกลงใหม่นี้ เม็กซิโกยินยอมที่จะปรับลดกำลังการผลิต 100,000 บาร์เรล/วัน
ข่าวโอเปกพลัสเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสพุ่งขึ้นกว่า 5% ในช่วงเช้าของวานนี้ (13 เม.ย.) แต่ไม่สามารถหนุนหุ้นในเอเชียให้ดีดตัวขึ้นได้ แม้การทำข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสถือเป็นการส่งสัญญาณการสิ้นสุดสงครามราคาน้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซียก็ตาม
อย่างไรก็ตาม บรรดานักลงทุนยังจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (ซีเอสเอสอี) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานข้อมูลล่าสุดว่า ยอดรวมผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้ เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 2 ล้านราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นแตะ 120,000 ราย (นับถึงวันที่ 14 เม.ย.)
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ขานรับผลการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสทันที โดยระบุว่า การบรรลุข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยปกป้องแรงงานในอุตสาหกรรมพลังงานของสหรัฐได้หลายหมื่นตำแหน่ง
ทรัมป์ ทวีตว่า “ในที่สุดกลุ่มโอเปกพลัสก็สามารถบรรลุข้อตกลงครั้งใหญ่ ซึ่งจะช่วยปกป้องแรงงานในอุตสาหกรรมพลังงานของสหรัฐได้หลายหมื่นตำแหน่ง ผมขอบคุณและขอแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย และสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลลาซิซ อัล ซาอุด แห่งซาอุดีอาระเบีย ผมได้มีโอกาสพูดคุยทางไกลร่วมกับทั้งสองท่าน และในที่สุดพวกเขาก็สามารถทำข้อตกลงกันได้”
ก่อนหน้าที่โอเปกพลัสจะมีมติเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตร่วมกันนั้น รัฐมนตรีพลังงานของกลุ่มจี20 ได้ออกแถลงการณ์หลังการประชุมทางไกลนัดพิเศษเมื่อวันศุกร์ (10 เม.ย.) ว่า ประเทศในกลุ่มจี20 จะดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อรับประกันเสถียรภาพของตลาดพลังงาน และตกลงกันที่จะจัดตั้งกลุ่มเพื่อกำกับดูแลมาตรการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ในตลาด
จี20 ระบุในแถลงการณ์ว่า จะใช้เครื่องมือด้านนโยบายทั้งหมดที่มีเพื่อรักษาเสถียรภาพตลาด และรับประกันว่าภาคพลังงานจะยังคงมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการช่วยฝ่าฟันวิกฤตโรคโควิด-19 และช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ รมว.พลังงานกลุ่มจี20 ยังตกลงกันที่จะจัดการประชุมครั้งต่อไปในเดือนก.ย. และพร้อมที่จะจัดการประชุมฉุกเฉินก่อนหน้าหมายกำหนดการนั้น หากมีความจำเป็นเร่งด่วน
สมาชิกกลุ่มจี20 ประกอบด้วย อังกฤษ, แคนาดา, ฝรั่งเศส, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เยอรมนี, รัสเซีย, สหรัฐ, สหภาพยุโรป, อาร์เจนตินา, ออสเตรเลีย, บราซิล, จีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, เม็กซิโก, ซาอุดีอาระเบีย, แอฟริกาใต้, เกาหลีใต้ และตุรกี