สานฝัน 'อนันต์ กาญจนพาสน์' ทายาทลุยปั้นอาณาจักรเมืองทองธานี

สำหรับ เสี่ยช้าง “อนันต์ กาญจนพาสน์” ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BLAND เจ้าของอาณาจักรเมืองทองธานี ซึ่งถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 13 เม.ย.2563 สิริอายุได้ 80 ปี 

ย้อนไปก่อนวิกฤติต้มยำกุ้ง อนันต์เคยร่ำรวยในฐานะ “มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของเมืองไทย” แต่พอมรสุมลูกใหญ่พัดกระหน่ำ ทำให้บริษัทมีหนี้สูงถึง 53,000 ล้านบาท!

อาจเป็นเพราะคำว่า ยกธงขาว ไม่ได้อยู่ในพจนานุกรมของอนันต์ เขาจึงใส่เกียร์กอบกู้สถานการณ์ เดินสายปรับโครงสร้างหนี้อย่างไม่ย่อท้อ และแยกศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม “อิมแพ็ค เมืองทองธานี” เมื่อเดือน ต.ค.2542 ด้วยการจัดตั้งบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด โดยบางกอกแลนด์ถือหุ้น 99.97% ก่อนจะขายหุ้นอิมแพ็ค 44.97% ให้กับบริษัท Juutland Limited ในปี 2550 เพื่อนำเงินมาเพิ่มสภาพคล่องแก่บางกอกแลนด์

กระทั่งสามารถฟื้นฟูกิจการของบางกอกแลนด์ กลับมาผงาดในวงการได้อีกครั้งในปี 2555 ด้วยฐานะการเงินที่มีสภาพคล่อง ไม่มีภาระหนี้สิน และสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีนับตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้ง

**อนันต์ กาญจนพาสน์

อนันต์ กาญจนพาสน์ เกิดเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2484 ที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในทายาทของมังกรโพ้นทะเล มงคล กาญจนพาสน์ สำเร็จการศึกษาขั้นปริญญาตรี บริหารธุรกิจ วิทยาลัยสวอซ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นพี่ชายของเจ้าพ่อรถไฟฟ้า คีรี กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งต่างออกไปสร้างอาณาจักรธุรกิจ ปั้นดาวคนละดวง!

ด้านชีวิตส่วนตัว อนันต์ สมรสกับโซฟี และมีบุตรชาย 2 คน คือปีเตอร์ กาญจนพาสน์ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) และพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด

**ปีเตอร์ กาญจนพาสน์

ด้วยวิสัยทัศน์กว้างไกล อนันต์จึงได้วางแผนดำเนินงานร่วมกับบุตรชายทั้งสอง มุ่งต่อจิ๊กซอว์สร้างเมืองทองธานีให้เป็นโครงการเมืองที่สมบูรณ์แบบและครบวงจร โดยรุกขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจไมซ์ (การจัดประชุม สัมมนา ท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และแสดงสินค้า) ภายใต้ชื่อ "อิมแพ็ค เมืองทองธานี”

ปัจจุบันอิมแพ็คถือเป็นศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมชั้นนำอันดับ 1 ของประเทศไทย และยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างความยิ่งใหญ่แก่บางกอกแลนด์ได้อย่างสง่างาม นอกจากนี้ยังได้นำศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นรายแรกของประเทศไทยในปี 2556

**พอลล์ กาญจนพาสน์

ปีเตอร์ และพอลล์ เคยให้สัมภาษณ์ร่วมกันก่อนวิกฤติโควิด-19 ระบาดทั่วโลกว่า อยากทุ่มเทให้เมืองทองธานีเป็นเมืองที่สมบูรณ์แบบ หลังได้ปรับทิศทางการลงทุน มูฟจากการทำอสังหาฯเพื่อขายขาด มาเป็นอสังหาฯเพื่อเช่ามากขึ้น เน้นสร้างรายได้จากธุรกิจให้เช่าพื้นที่คอมเมอร์เชียล (Commercial Property) และเพิ่มการเติบโตของกำไรจากค่าเช่า

ทั้งนี้ยังได้เตรียมเงินลงทุนโครงการอสังหาฯในอาณาจักรเมืองทองธานีอีก 5,000-6,000 ล้านบาท (ไม่รวมมูลค่าที่ดิน) บนที่ดินรอพัฒนาซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่ 600 ไร่ แบ่งเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่ โซนริมทะเลสาบเมืองทองธานี โซนรอบอิมแพ็ค และโซนรอบคอสโม บาซาร์ แหล่งชอปปิ้งและศูนย์รวมความบันเทิง จากที่ดินทั้งหมดกว่า 4,000 ไร่ของเมืองทองธานี เพื่อรองรับส่วนต่อขยายจากแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 2.8 กิโลเมตรจากสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ซึ่งจะมีสถานีส่วนต่อขยาย 2 สถานีมาที่อาคารอิมแพ็คชาเลนเจอร์และริมทะเลสาบเมืองทองธานี โดยจะร่วมลงทุนกับบีทีเอสกรุ๊ป

คาดว่าจะสามารถรองรับผู้เดินทางเข้า-ออกงานอีเวนต์ในอิมแพ็คเพิ่มขึ้น 30-40% จากมีกว่า 10-15 ล้านคนต่อปี จากยอดการจัดงานอีเวนต์รวมกว่า 1,000 งานต่อปี และเมื่อส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดให้บริการ คาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ภายในเมืองทองธานีได้ไม่ต่ำกว่า 3 เท่า ทำให้แนวโน้มราคาที่ดินในเมืองทองธานีเพิ่มจาก 1 แสนบาทต่อตารางวา เป็น 3 แสนบาทต่อตารางวา เท่ากับราคาที่ดินติดถนนแจ้งวัฒนะในปัจจุบัน

คงต้องติดตามภารกิจสานฝันของ 2 ทายาทผู้สืบทอดเจตนารมย์ของอนันต์ ซึ่งตั้งใจ “ต่อจิ๊กซอว์” อาณาจักรเมืองทองธานี พัฒนาในส่วนที่เหลือกว่า 600 ไร่นี้ให้เป็นภาพใหญ่ที่สมบูรณ์ภายใน 7-8 ปีนับจากนี้ ในสถานการณ์ที่ธุรกิจต้องตั้งการ์ดสู้วิกฤติโควิด-19 โรคระบาดครั้งใหญ่ และเป็น“ความท้าทาย”รูปแบบใหม่ที่บางกอกแลนด์ต้องเผชิญกับการถูกดิสรัปอยู่ในขณะนี้!