ศึกษามาตรการทั่วโลก หยุดการแพร่ระบาดโควิด-19

วันนี้ (15 เมษายน 2563) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่าได้มีการจัดทำสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย บ่งบอกถึงความเข้มข้นของผู้ป่วยในแต่ละจังหวัด แต่ละภาพ  ซึ่งส่วนใหญ่กระจุกตัวในกทม.และปริมณฑล รวมถึง 3 จังหวัดชายแดนใต้ และบางจังหวัดในภาคอีสาน อีกทั้งมีการกระจายพบผู้ป่วย 1-2 ราย ในแต่ละจังหวัดจำนวนมาก ดังนั้น แผนที่ประเทศไทยนี้ จะแสดงให้แต่ละจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานต่างๆ ได้นำไปดูแลคนในจังหวัด และอยากให้พี่น้องประชาชนเข้าใจ ให้ความร่วมมือกับทางจังหวัด จำเป็นต้องตรึงความเข้มแข็ง การ์ดอย่าตก เพื่อไม่ให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น และถ้าเหลือตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อเพียงตัวเลขเดียว จะดีมาก

ทั้งนี้ จากสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก 208 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ ณ วันที่ 15 เมษายน 2563 พบว่า มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,998,138 ราย มีผู้เสียชีวิต 126,607 ราย 

สหรัฐอเมริกา ยังเป็นประเทศที่พบผู้ป่วยสูงสุด 613,886 ราย มีผู้ป่วยรายใหม่ 26,945 ราย และมีผู้เสียชีวิต 26,047 ราย  รองลงมาคือ สเปน มีผู้ป่วยยืนยัน 174,060 ราย  มีผู้ป่วยรายใหม่ 3,961 ราย และเสียชีวิต 18,255 ราย และอิตาลี มีผู้ป่วยสะสม 162,488 ราย ผู้ป่วยรายให่ 2,972 ราย และเสียชีวิต 21,067 ราย ขณะที่ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 50 

มาตรการต่างชาติ รับมือโควิด-19

นอกจากนั้น ได้มีการศึกษาถึงมาตรการต่างๆ ในต่างประเทศ เพราะถ้าดูประสบการณ์มาตรการแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน และต้องนำประเทศที่มีมาตรการในเชิงบวก เส้นกราฟคงที่ อย่าง เกาหลีใต้  ฮ่องกง ว่าทำอย่างไร

 รวมถึงได้มีการศึกษาประเทศสิงคโปร์ ที่ขณะนี้ได้มีการเตรียมที่พักให้กับแรงงานชาวต่างชาติ โดยเป็นที่พักบนเรือที่ใช้สาหรับพนักงานในอุตสาหกรรมพลังงานนอกชายฝั่งและอุตสาหกรรมทางทะเล เนื่องจากทางการสิงคโปร์ต้องการย้ายแรงงานออกจากหอพักที่หนาแน่น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งที่พักดังกล่าวสามารถรองรับผู้เข้าพักได้ 200-300 คน และสามารถใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมได้

ขณะที่ประเทศจีน มีการอนุมัติให้นำวัคซีน 2 ตัว สำหรับต้านโควิด-19 เข้าทดสอบระดับคลินิกกับคน  และอินโดนีเซีย ได้ประกาศให้การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นภัยพิบัติ

ส่วนทางยุโรป ฝรั่งเศส ประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์ประเทศออกไปอีก 4 สัปดาห์ จนถึงวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ และหากหลังวันที่ 11 พฤษภาคม สถานการณ์โดยรวมดีขึ้นอาจมีคำสั่งอนุญาตให้โรงเรียน หรือสถานรับเลี้ยงเด็กกลับมาเปิดให้บริการได้ สถานรับเลี้ยงเด็กกลับมาเปิดให้บริการได้ แต่สำหรับร้านอาหาร บาร์ งานอีเวนต์ต่าง ๆ ที่มีการรวมตัวของผู้คนจำนวนมากอาจต้องปิดและเลื่อนออกไปถึงช่วงกลางเดือนกรกฎาคม

ญี่ปุ่น ผู้ว่าการกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ยื่นคำขาดกับชาวบ้านและร้านค้า ให้อยู่บ้านและชัตดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด นอกจากนี้ยังผลักดันให้ผู้ว่าราชการคนอื่น ๆเรียกร้องให้ธุรกิจปิดทางการด้วย

เที่ยวบินนำคนไทยที่ตกค้างกลับไทย

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศ ได้รายงานเที่ยวบินที่คนไทยในต่างประเทศจะกลับได้ มีดังนี้ วันที่ 15 เมษายน เวลา 22.00 น. เกาหลีใต้ 92 คน วันที่ 16 เมษายน เวลา 11.00 น. สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ 120 คน  และเวลา 15.15 น. เที่ยวบินจากมัลดีฟส์ 70  คน  วันที่ 17 เมษายน เวลา 13.40 น. บังกลาเทศ 35 คน  

ส่วนข้อมูลที่บอกว่าจะมีคนไทยเดินทางมาจากมาเลเซีย 3000 กว่าคน และมาจากอินเดียอีกจำนวนหนึ่งนั้น คนกลุ่มนี้เป็นข้อมูลก่อนที่จะได้ประกาศว่าให้มีการลงทะเบียน ทางศูนย์ศบค.ชุดเล็กได้คาดการณ์ว่าน่าจะน้อยกว่าชุดข้อมูลที่แจ้งมา

นส่วนของมาตรการในการดูแลเรื่องนี้ทางศูนย์ศบค. ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและได้หารือกับกระทรวงสาธารณสุข ชัดเจนว่าจะให้เข้ามาประเทศไทยครั้งละไม่เกิน 200 คน ส่วนเมื่อเข้ามาประเทศแล้ว พื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ยังเพียงพอให้กักตัวได้ และหากทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นก็จะกระจายไปยังกลุ่มจังหวัดใกล้ชิด

ขอให้ประชาชนไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ เพราะภาครัฐได้มีประสบการณ์เรื่องนี้ และได้มีการจัดระบบอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่เข้ามา และผู้ที่อยู่ต้องไม่ได้รับความเดือดร้อน