ผู้ป่วยโรคหัวใจ ดูแลตัวเองอย่างไรในช่วงโควิด-19

ผู้ป่วยโรคหัวใจ ดูแลตัวเองอย่างไรในช่วงโควิด-19

แม้วันนี้โลกจะได้รู้จักและเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ 2019” หรือ “โควิด-19” มากว่า 4 เดือนแล็วก็ตาม  นับแต่มีการยืนยันการพบผู้ติดเชื้อรายแรกอย่างเป็นทางการตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2562

อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี้  ก็ยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยต่อการใช้ชีวิตได้อย่างปกติดั่งที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้  จึงนำมาซึ่งมาตรการต่าง ๆ ในด้านสุขอนามัยและการดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อ หรือที่ตอนนี้เรารู้จักกันว่า “ความปกติแบบใหม่” (New Normal)  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง อาทิ ผู้ที่มีโรคประจำตัวไม่ว่าจะเป็นความดัน (Hypertension) เบาหวาน (Diabetes) ระบบทางเดินหายใจ (Respiratory Disease) และโรคหลอดเลือดหัวใจ (Cardiovascular Disease) ที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงกว่าบุคคลทั่วไปหากได้รับเชื้อไวรัสนี้

 

โครงการ Every Beat Matters เพราะทุกจังหวะมีความหมาย ได้ร่วมมือกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจัดทำวิดีโอ  เพื่อให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคโควิด-19  ที่มีความเกี่ยวข้องกับภาวะหัวใจล้มเหลว  ที่จะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเพื่อดูแลตนเองและป้องกันตนเองและสมาชิกในครอบครัวให้ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่นี้  ทั้งยังเป็นการลดความเสี่ยงในการเพิ่มจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทยอีกด้วย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ สุรพันธ์ สิทธิสุข อดีตหัวหน้าหน่วยโรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  กล่าวในวิดีโอว่า เชื้อไวรัสโคโรนาที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงชนิดที่สอง (SARS-CoV-2 เป็นต้นเหตุของโรคโควิด-19  พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่จะอยู่ในวัยทำงานจนถึงผู้สูงอายุ  มีอายุเฉลี่ยระหว่าง  30-39 ปีและ 50-59 ปี  

โดยอาการเริ่มแรกมักมีไข้สูงถึง 37.5 องศาขึ้นไป  พร้อมกับมีอาการร่วมคือ  ไอ  เจ็บคอ  อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย  ท้องเสีย  และหายใจหอบเหนื่อย  ส่งผลต่อเนื่องให้เกิดโรคปอดอักเสบ  โดยหากผู้ป่วยที่ร่างกายไม่แข็งแรงหรือมีภูมิคุ้มกันต่ำหรือรายที่มีโรคประจำตัว  เช่น  โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง  สามารถเพิ่มความเสี่ยงถึงขั้นวิกฤตและเสียชีวิตได้ถึง 3-7 เท่าเลยทีเดียว  

159016096433

ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้  จึงแนะนำให้ทุกคนดูแลสุขภาพตนเองให้ดี  หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์  หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า  ปาก  จมูก  ดวงตา  และควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่  ไม่ใช่ภาชนะและของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น  ที่สำคัญควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน  และมีเจลแอลกอฮอล์พกติดตัวไว้เพื่อทำความสะอาดมือด้วย

และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่มีความกังวลต่อการติดเชื้อโควิด-19  โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคหลอดเลือดหัวใจ  หลอดเลือดสมอง  และโรคหัวใจ  ในวิดีโอยังมีคำแนะนำในการปฏิบัติตัวเพื่อรับมือป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัสและลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคแทรกซ้อน ดังนี้

1. รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ  รวมถึงการหมั่นตรวจดูตารางการรับวัคซีนให้ครบถ้วนตามกำหนด

2. คอยสังเกตอาการร่างกาย  อาทิ  การหายใจติดขัด  เจ็บหน้าอก  หรือการเต้นของหัวใจผิดปกติหรือไม่

3. ปฏิบัติตามคำแนะนำทั่วไป  เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า  โดยการล้างมือบ่อย ๆ  ด้วยสบู่หรือใช้แอลกอฮอล์  เจลล้างมือ  เลี่ยงการสัมผัสใบหน้า  รวมไปถึงเลี่ยงการสัมผัสวัตถุสิ่งของที่เป็นจุดสัมผัสร่วม  เช่น  ปุ่มกดลิฟท์  มือจับ / ราวจับต่าง ๆ 

4. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่   ใช้ภาชนะและช้อนส้อมของตนเองไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่น   พักผ่อนให้เพียงพอ   และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

5. ประการสุดท้าย  ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก  คือ  ควรสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งเมื่อต้องออกจากบ้าน

 

แม้โรคโควิด-19 จะสร้างความวิตกกังวลและหวาดกลัวให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก  แต่เราทุกคนก็ยังคงต้องใช้ชีวิตต่อไปควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันตนเองจากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่  และที่สำคัญการเว้นระยะห่างหรือ Social Distancing  ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะเป็นวิธีการร่วมด้วยช่วยกันลดจำนวนผู้ติดเชื้อให้ได้มากที่สุด  ด้วยระยะห่างที่ปลอดภัยอย่างน้อยประมาณ 1-2 เมตร  สุดท้ายนี้ผมในนามของตัวแทนจากกลุ่มทางการแพทย์หวังว่าคลิปวิดีโอชุดนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยเป็นดั่งเกราะป้องกันภัยให้เราห่างไกลจากโรคนี้ครับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ สุรพันธ์ สิทธิสุข กล่าวเสริม

 

ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Every Beat Matters “เพราะทุกจังหวะมีความหมาย ได้  โดยสามารถเข้าไปรับชมวิดีโอและแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์นี้ที่ Facebook Every Beat Matters รวมทั้งข้อมูลความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะหัวใจล้มเหลว