ชาวไทยมุสลิม ยะลา ปัตตานี ร่วม 'วันฮารีรายอ' คึกคัก คุม 'โควิด-19' เข้ม

ชาวไทยมุสลิม ยะลา ปัตตานี ร่วม 'วันฮารีรายอ' คึกคัก คุม 'โควิด-19' เข้ม

มัสยิด จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี คึกคักในวันนี้ เมื่อพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ ร่วมจัดพิธีละหมาดเนื่องในโอกาสวันฮารีรายอปอซอ ประจำปี 2563

เวลา 07.30 น.วันนี้ (24 พ.ค.63) ที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ทาง เครือข่ายองค์กรมุสลิม และมัสยิดกลางจังหวัดยะลา พี่น้องชาวไทยมุสลิม ในพื้นที่ จ.ยะลา กว่า 1500 คน ได้ร่วมจัดพิธีละหมาดเนื่องในโอกาสวันตรุษอีฏิลฟิตริ ฮิจเราะห์ศักราช หรือ ฮารีรายอปอซอ ฮิจญเราะห์ ศักราช 1441 ประจำปี 2563 ขึ้น เพื่อให้ชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ ได้ร่วมเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ ในเทศกาลฮารีรายออิดิลฟิตตรี หลังจากได้ร่วมถือศีลอด มาตลอดระยะเวลา 1 เดือนเต็ม ในเดือนรอมฎอน โดยมี ชาวไทยมุสลิม ทั้งชายและหญิง ร่วมประกอบพิธีละหมาดเพื่อขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าสำหรับการละหมาดวันอีดิ้ลฟิตรีหรือวันอีดเล็ก ตรงกับวันที่ 1 เดือนเซาวาล เป็นเดือนที่ 10 ของเดือนในศาสนาอิสลามโดยถือทางจันทรคติ

การละหมาดวันอีดิ้ลฟิตรี ถือเป็นการปฎิบัติศาสนกิจที่มีความสำคัญต่อชาวไทยมุสลิมเป็นอย่างมาก มุสลิมทุกเพศทุกวัยทั้งชายหญิง จะต้องไปร่วมกันละหมาด โดยพร้อมเพรียงกัน ที่มัสยิดใกล้บ้าน หรือสถานที่ที่จัดให้มีพิธีละหมาด สำหรับที่มัสยิดกลางจังหวัดยะลา ได้มีการตรวจคัดกรองวัดไข้และการจัดที่นั่งละหมาดห่างกันประมาณ 1-2 เมตร โดยมีทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเทศบาลนครยะลาและ อสม.ร่วมตรวจคัดกรองก่อนเข้าภายในมัสยิดและจดชื่อที่อยู่ ตามบัตรประชาชนก่อนเข้าภายในมัสยิดเช่นเดียวกัน

ด้าน นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ส่งความปรารถนาดี เนื่องในโอกาสเทศกาลฮารีรายออิดิลฟิตรี้ ฮิจเราะห์ศักราช 1441 โดยขอบารมีองค์อัลเลาะห์ให้คุ้มครอง ประทานพรให้กับชาวไทยมุสลิมให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีความสุข ความเจริญคิดและประสงค์สิ่งใดก็ขอให้ได้สมความปรารถนา

เช่นเดียวกับ ชาวมุสลิม จ.ปัตตานี ร่วมวันฮารีรายอกันคึกคักภายใต้มาตรการป้องกัน 'โควิด19' เข้ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 24 พ.ค. 63 ถือเป็นวันที่สำนักจุฬาราชมนตรี ได้ประกาศให้ เป็นวันฮารีรายออีดิ้ลฟิตริ ปีฮิจเราะห์ ศักราช 1441 หรือเป็น วันเฉลิมฉลองของพี่น้องชาวมุสลิม ภายหลังจากที่ถือศีลอดมาตลอด 1 เดือนเต็ม ในเดือนรอมฎอนที่ผ่านมา โดยในวันนี้ มุสลิมมีร่วมปฏิบัติศาสนกิจ โดยเดินทางไปที่มัสยิดใกล้บ้านเพื่อร่วมกันละหมาดและฟังบรรยายธรรมเนื่องในวันฮารีรายออีดิ้ลฟิตริ

สำหรับบรรยากาศที่มัสยิดกลาง จ.ปัตตานี และมัสยิดรายอ(จะบังติกอ) ซึ่งเป็นมัสยิดประวัติศาสตร์ ของเจ้าเมืองปัตตานีในอดีต เป็นไปอย่างคึกคัก ตั้งแต่เวลา 07.00 น. พี่น้องชาวไทยมุสลิม ทั้งชายและหญิงต่างเดินทางมาร่วมกันอย่างเนืองแน่น ร่วมฉลองด้วยการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ๆ สวยงาม ตามแบบอย่างของอิสลาม ต่างพากันจูงบุตรหลานเข้าร่วมละหมาด เนื่องในวันฮารีรายออีดิ้ลฟิตรี เพื่อร่วมละหมาดและขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าให้เกิดความสันติสุขแก่ตนเองและครอบครัว พร้อมยังได้ขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าร่วมกันให้เกิดความสงบ และสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย อีกทั้งขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าร่วมกันให้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 หายไปจากโลกนี้เช่นกัน

ซึ่งการละหมาดวันฮารีรายออีดิ้ลฟิตริ ถือเป็นการเริ่มต้นของการเฉลิมฉลองในวันฮารีรายอ จากนั้นพี่น้องมุสลิมจะเดินทางไปเยี่ยมกุโบร์ หรือหลุมฝังศพของบรรพบุรุษพื่อระลึกถึงบุคคลที่ล่วงลับไปแล้ว ต่อมาทุกคนต่างแยกย้ายกลับไปเยี่ยมบ้านหรือเยี่ยมเยียนเพื่อขอพรจากญาติผู้ใหญ่ ขออภัยซึ่งกันและกัน ในข้อผิดพลาดต่างๆ นอกจากนี้จะมีการทำอาหารเลี้ยงและรับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งเป็นมื้อเช้ามื้อแรกในรอบ 1 เดือนหลังจากที่ถือศีลอดมาทั้งเดือนในเดือนรอมฎอน

อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของจังหวัดปัตตานีจะดีขึ้นตามลำดับ แต่การร่วมละหมาดวันฮารีรายอครั้งนี้ ทุกมัสยิด ยังคงต้องมีมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยก่อนเข้ามัสยิดได้มีการตรวจคัดกรอง การเว้นช่วงระยะห่าง1.5 เมตร และให้ทุกสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป