"รับจ้าง นร./นศ. พนักงานนวด" 3 กลุ่มอาชีพเสียงโควิด-19

วันนี้ ( 1มิ.ย. 2563) นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าว สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันนี้ ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1 ราย รวมยอดสะสม  3,082 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ เสียชีวิตรวม 57 ราย รักษาหายกลับบ้าน 2,965 ราย หรือ 96.20% ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 60  ราย ผู้ป่วยยืนยันจำแนกตามพื้นที่รักษา แบ่งเป็นกรุงเทพฯและนนทบุรี 1,723 ราย ภาคเหนือ 95 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 ราย ภาคกลาง 414 ราย  และภาคใต้ 739 ราย

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ วันที่ 1 มิ.ย.จำนวน 1  ราย เป็นเพศหญิง อายุ 43 ปี เดินทางมาถึงวันที่ 20 พ.ค.2563 เข้าState Quarantine ในจ.ชลบุรี ตรวจครั้งที่ 1 วันที่ 24 พ.ค. 2563 ผลไม่พบเชื้อ ตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 31 พ.ค.2563 เข้ารักษาที่โรงพยาบาล จ.ชลบุรี ไม่มีอาการ

ส่วนของสถานการณ์โรคโควิด-19 ในสถานกักกันโรคของรัฐที่ส่วนกลางและภูมิภาค ตั้งก.พ.-1 มิ.ย.2563 พบผู้ป่วยในสถานกักกันโรคฯ จำนวนผู้ป่วย 145 ราย เพศชาย:หญิง เท่ากับ 6.25: 1 (125:20) ค่าเฉลี่ยอายุ 39 ปี (ต่ำสุด 15 ปี สูงสุด 77 ปี) สัญชาติไทย98.62% อเมริกา 0.69% อังกฤษ 0.69% อัตราป่วยในกลุ่มผู้เข้ากักโรค 145/29,725 เท่ากับ 0.49%

ทั้งนี้ จำนวนตัวอย่างที่ได้รับการตรวจ covid-19  RT-PCR ตั้งแต่เริ่มเปิดบริการถึงวันที่ 29 พ.ค.2563 ตรวจสะสม 420,529 ตัวอย่าง 

โฆษก ศบค. กล่าวต่อว่าสำหรับปัจจัยเสี่ยง 5 อันดับแรก ข้อมูล ณ วันที่  1 มิ.ย. จากจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสม ได้แก่ สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ 1,191 ราย อาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด 284 ราย สนามมวย 274 ราย คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 269 ราย และสถานบันเทิง  227 ราย และจำนวนผู้ป่วยยืนยัน 2 สัปดาห์ล่าสุด ได้แก่ ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันของรัฐ 45 ราย สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า 3 ราย และไปสถานที่ชุมชน เช่น ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 3 ราย 

จำนวนผู้ป่วยยืนยัน จำแนกตามอาชีพ สูงสุด  5 อันดับ ได้แก่ รับจ้างทั่วไป/ฟรีแลนซ์ ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว พนักงานบริษัท /โรงงาน นักเรียน/นักศึกษา พนักงานในสถานบันเทิง  ขณะที่ จำนวนผู้ป่วยยืนยันใน 2 สัปดาห์ล่าสุด ได้แก่ รับจ้างทั่วไป/ฟรีแลนซ์   นักเรียน/นักศึกษา  และพนักงานนวด 

สำหรับ สถานการณ์ทั่วโลก 211 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ มีผู้ติดเชื้อรวม 6,263,901  ราย อาการหนัก 53,407 ราย รักษาหาย 2,846,119 ราย เสียชีวิต 373,899 ราย โดย 10 อันดับ ผู้ป่วยสูงที่สุด อันดับที่ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา ถัดมา ได้แก่ บราซิล รัสเซีย สเปน อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย และตุรกี

ขณะที่ ประเทศในเอเชียพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ อินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 78 ของโลก

นายแพทย์ทวีศิลป์  กล่าวต่อไปว่าภาพรวมการใช้งาน ยอดสะสมตั้งแต่เริ่มโครงการ ณ ข้อมูล วันที่ 31 พ.ค.2563 พบว่า จำนวนกิจกรรม/กิจการลงทะเบียน133,694 ร้าน จำนวนผู้ใช้งาน 18,587,269 คน ผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะ  18,523,417 คน และผ่านแอปไทยชนะ 63,852 คน จำนวนการเข้าใช้งาน เช็คอิน  56,659,361ครั้ง เช็คเอาท์  35,663,681 ครั้ง และประเมินร้าน 20,974,122 ครั้ง

ส่วนเที่ยวบินนำคนไทยที่ตกค้างกลับไทย มีดังนี้ รัสเซีย(มอสโก) 50 คน แรงงาน นักศึกษา มาเลเซีย(กัวลาลัมเปอร์) 93 คน คนทำงาน นักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยว สหรัฐอเมริกา (ผ่านเกาหลีใต้) 212 คน UAE (ดูไบ) 290 คน ญี่ปุ่น (โตเกียว) 110 คน เกาหลีใต้(โซล) 50 คน สถิติคนไทยเดินทางเข้าประเทศผ่านจุดผ่านแดนทางบก ลงทะเบียนไว้ 384 คน เดินทางเข้ารวม 563 คน เป็นผู้ลงทะเบียนไว้ 520 คน ไม่ได้ลงทะเบียน 43 คน มาจากมาเลเซีย 527 คน ผู้ลงทะเบียนเดินทางเข้า 484 คน และไม่ลงทะเบียน 43 คน สปป.ลาว 14 คน และกัมพูชา 22 คน

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่าจากข้อซักถามว่าทำไมร้านนวดไม่สามารถให้บริการนวดบริเวณใบหน้าได้ แต่ในส่วนของสถานเสริมความงามสามารถให้บริการได้นั้น เรื่องนี้เป็นความห่วงใยของศบค. และสธ. เพราะโรคนี้มีการแพร่กระจายทางอาการหายใจ  นั่นคือทางปากและจมูก อีกทั้งทักษะ การป้องกันส่วนบุคคล ความรู้ในการจัดการร้านนวดซึ่งมีหลายระดับ และการนวดต้องสัมผัสใกล้ชิดและใช้เวลาค่อนข้างนาน

ขณะที่สถานเสริมความงาม สถานบริการด้านเวชกรรมที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรทางการแพทย์ มีวิธีการฝึกปฎิบัติผู้ปฎิบัติงานทำให้ทางศบค.และสธ.มั่นใจในระดับหนึ่งได้  ดังนั้น เป็นความห่วงใย เพื่อการดูแลและควบคุมโรคจึงยังให้ร้านนวดไม่สามารเปิดบริการนวดบริเวณใบหน้าได้

“กรณีการหยุดชดเชยสงกรานต์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ศบค.ได้ออกมาแจ้งว่าอาจจะมีการดำเนินการในเดือนก.ค.นั้น จะสามารถหยุดชดเชยได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาในขณะนี้ เพราะการที่พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะอยู่ต่อหรือไม่ในเดือนก.ค.ขึ้นอยู่กับมาตรการระยะ 3 และมาตรการระยะ 4 ฉะนั้น ขอฝากทุกคนการดูแลสุขลักษณะส่วนตัวของตนเอง การ์ดไม่ตกตั้งแต่ตอนต้น หลายคนออกมาบอกว่าใส่หน้ากากอนามัยน้อยลง หน้ากากผ้าน้อยลง นี่คือความเสี่ยงที่จะติดโรค รวมถึงโรคอื่นๆ ตามมา” โฆษก ศบค. กล่าว

นอกจากนั้น หากทุกคนต้องการหยุดชดเชยวันหยุดสงกรานต์ ก็ต้องดูว่าเดือนมิ.ย.นี้ผ่านไปได้ด้วยดี ถ้าวันนี้เราผ่านเหตุการณ์ผ่อนปรนระยะที่ 3 และผ่อนปรนระยะที่ 4 ไปได้  ประเทศก็จะกลับมาปกติแบบเดิมได้ ขอย้ำให้ทุกคนใช้ชีวิตโดยคำนึงมาตรการควบคุมหลัก ล้างมือ ใส่หน้ากาก เว้นระยะ ทำความสะอาด และอย่าให้แออัด