'พาณิชย์' เผยล่าสุดยอดขาย ‘หน้ากากอนามัย-เจลล้างมือ’ เกินราคา เพิ่มเป็น 431 ราย
“พาณิชย์” เผยล่าสุดยอดเพิ่มเป็น 431 ราย ขาย “หน้ากากอนามัย-เจลล้างมือ” เกินราคา ไม่ปิดป้ายแสดงราคา และจำหน่ายในราคาแพงเกินจริง
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.63 นายสุพพัต อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์และศูนย์ปฏิบัติการด้านการควบคุมสินค้า (ศปส) ฝ่ายสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า ณ วันที่ 2 มิ.ย.63 กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์ เพิ่มอีก 4 รายคือ กรุงเทพฯ 3 ราย เป็นผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก 1 ราย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทำการล่อซื้อและจับกุม พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยนำเข้าจากเวียดนาม จำนวน 250 ชิ้น บรรจุกล่องละ 50 ชิ้นจำหน่ายในราคากล่องละ 880 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 17.60 บาท) และสามารถตรวจยึดของกลางเพิ่มอีก 120 ชิ้น แจ้งข้อหากระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาสูงเกินสมควร ตามมาตรา 29 อีก 2 ราย กระทำความผิดข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย แบ่งเป็นร้านขายยา 1 ราย พบจำหน่าย เจลแอลกอฮอล์ ขนาด 50 มล. ขนาด 200 มล. และสเปรย์แอลกอฮอล์ 75% ขนาด 30 มล. และเป็นแผงจำหน่ายหน้ากากอนามัย 1 ราย พบจำหน่ายหน้ากากกันฝุ่น และหน้ากากผ้า โดยทั้งสองรายถูกแจ้งข้อหากระทำความผิด ตามมาตรา 28
สำหรับในต่างจังหวัด 1 ราย พบการกระทำความผิดในจังหวัดตาก โดยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบตามที่มีการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 เกี่ยวกับการจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินสมควร พบผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก จำหน่ายหน้ากากอนามัยบรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 390 บาท(เฉลี่ยชิ้นละ 7.80 บาท) แจ้งข้อหากระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุม และแพงเกินสมควร ตามมาตรา 25 และมาตรา 29
โดยสถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ ตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.-2 มิ.ย.63มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 431 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 195 ราย และต่างจังหวัด 236 ราย สำหรับสถานการณ์การจำหน่ายไข่ไก่ในขณะนี้ เข้าสู่ภาวะปกติประชาชนซื้อเท่าที่พอเพียงต่อการบริโภค เนื่องจากมีปริมาณผลผลิตไข่ไก่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น สามารถสั่งซื้อและส่งสินค้าได้ตามปกติ จากการติดตามตรวจสอบ และจับกุม ไม่พบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542ยอดรวมการจับกุมสะสม ทั้งหมด 29 ราย
ขณะที่โทษที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง มาตรา26 ข้อหาเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งชื่อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย มาตรา 28 ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทและมาตรา 29 ข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ในขณะนี้ จะพบผู้ที่มีพฤติกรรมกักตุน และขายสินค้าแพงเกินจริงโดยเฉพาะสินค้าหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ ลดลงแล้วก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ยังคงมีการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่องทุกวัน หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ถือเป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชน หากประชาชนพบมีการกักตุนสินค้าและขายสินค้าแพงเกินจริง สามารถร้องเรียนได้ทันทีที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดทันที