ทส. หารือช่อง กม.ป้องกันลักลอบตัดไม้เทียนทะเล
พบการลักลอบทำไม้และค้าสัตว์ป่า ช่วงโควิด-19
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ครั้งที่ 1/2563 หารือประเด็นข้อกฎหมาย รวมทั้งการหาทางป้องกันการลักลอบตัดไม้และค้าสัตว์ป่า รวมทั้งต้นเทียนทะเลตามพื้นที่จังหวัดที่มีชายทะเลและโขดเขาที่มีต้นไม้ชนิดนี้ขึ้น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่าได้จับกุมการลักลอบตัดไม้ชนิดนี้ ที่บริเวณเกาะแตน จ.สุราษฎร์ธานีไม่นานมานี้ ซึ่งเป็นไม้ที่หายาก สวยงาม และเติบโตช้าทำให้เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
ประกอบกับในปัจจุบันไม้ชนิดนี้เป็นที่ต้องการจากตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยแหล่งข่าวกล่าวว่า นิยมเอาไปทำบอนไซเพราะมีรูปทรงสวย เพาะง่าย กิ่งมีราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน
ในที่ประชุมได้หารือเตรียมขึ้นทะเบียนให้เป็นไม้หวงห้าม และเสนอให้อยู่ในอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (Cites) แต่นายวราวุธ กล่าวว่า ได้ให้ไปศึกษาเพิ่มเติมว่าจะดำเนินการเป็นข้อกฎหมายอย่างไรได้บ้างเนื่องจากข้อจำกัดบางประการ
นอกจากนี้ ยังได้มีการสรุปการดำเนินการตรวจยึดและจับกุมขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงในอีกหลายพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เชื่อมโยงกับขบวนการขโมยไม้ของกลางที่เก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐเกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน โดยหน่วยพญาเสือเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ได้จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 8 นาย และผู้เกี่ยวข้องในขบวนการอีก 14 คน ซึ่งมีอดีตเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ถูกให้ออกจากราชการและเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ผักไหม อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษร่วมขบวนการ และขบวนการดังกล่าวเชื่อมโยงกับกรณีการขโมยไม้ของกลางตามหน่วยป้องกันรักษาป่าของกรมป่าไม้หลายแห่งในท้องที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทั้งนี้ รมว.ทส. ได้กล่าวถึงอีกกรณีที่ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่าได้ดำเนินการตรวจยึดจับกุมผู้กระทำผิดในการลักลอบตัดไม้และนำไม้มาอำพรางเป็นสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สอด จ.ตาก มาดำเนินคดี พร้อมทั้งสั่งวางมาตรการป้องกันการบุกรุกทำลายป่า โดยการตั้งจุดสกัดลาดตระเวนในพื้นที่ล่อแหลมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างการรับรู้และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และยกระดับความเข้มข้นในการตรวจสอบการขออนุญาตขนย้ายไม้เรือนเก่า รวมไปถึงการขอความร่วมมือในการตรวจสอบเส้นทางการเงินจาก ปปง.
ในที่ประชุมยังได้มีการรายงานภาพรวมของศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันของชุดปฏิบัติการพิเศษพยัคฆ์ไพร ของกรมป่าไม้ ชุดปฏิบัติการพิเศษพญาเสือ และชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวดง ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และหน่วยบินพิทักษ์ป่า Sky Ranger สำนักงานปลัด ทส. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินการเรื่องการบุกรุกที่ดินของรัฐ เรื่องการออกเอกสารสิทธิทับที่ป่าไม้ และเรื่องการลักลอบตัดไม้มีค่า
โดยสถิติในภาพรวมของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ช่วงที่ผ่านมาในปีงบประมาณ 62 ถึงปัจจุบัน แบ่งเป็นการดำเนินคดีบุกรุกป่ามีจำนวน 2,851 คดี มีผู้ต้องหา 521 ราย และคดีไม้มีจำนวน 2,451 คดี มีผู้ต้องหา 1,255 ราย
และในปีงบประมาณ 63 การดำเนินคดีบุกรุกป่ามีจำนวน 2,156 คดี มีผู้ต้องหา 378 ราย และคดีไม้ มีจำนวน 1,058 คดี มีผู้ต้องหา 521 ราย
ซึ่งจากสถิติดังกล่าวทั้งหมด มีแนวโน้มลดลงจากปีที่ผ่านมา
“อาจไม่ได้แปลว่าการตัดไม้ทำลายป่าลดลง แต่เจ้าหน้าที่ของเรายังเข้มงวด ส่งสัญญาณไปยังผู้กระทำผิดว่าถึงไม่โดนจับวันนี้พรุ่งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะตามล่า” นายวราวุธกล่าว
เพื่อที่จะได้เร่งขับเคลื่อนงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในส่วนของแนวทางการแก้ไขปัญหาขบวนการลักลอบตัดไม้มีค่า ที่ประชุมได้หารือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้
กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
1. ติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณสถานที่ ที่สำคัญ เพื่อเฝ้าระวังการกระทำความผิด
2. พัฒนาด้านเทคโนโลยีการตรวจพิสูจน์ไม้ ประเภทของไม้,ชนิดของไม้,และอายุของไม้เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการพิสูจน์
3. ประชาสัมพันธ์ช่องทางในการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบตัดไม้มีค่า
4. ส่งเสริม สนับสนุน สร้างเครือข่ายประชาชนในการมีส่วนร่วมดูแลไม้มีค่า
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
1. ให้เจ้าหน้าที่โดยการอนุญาตจากหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) เพื่อเข้าถึงข้อมูลธุรกรรมการเงินของผู้ที่ถูกกล่าวหา หรือเจ้าหน้าที่ ที่มีเหตุอันสงสัยว่าผู้นั้นได้กระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้
2. ในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ให้ตรวจสอบผู้ที่ถูกกล่าวหารวมไปถึงนอมินีด้วย
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)
1. เมื่อตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ ขนไม้ และค้าไม้มีค่า ขอเสนอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาสั่งการโดยด่วนว่าจะรับเป็นคดีพิเศษ เมื่อตรวจสอบแล้วไม่เข้าเงื่อนไขคดีพิเศษขอเสนอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยด่วนเพื่อมาตรวจสอบ และหามาตรการป้องกันไม่ให้มีการลักลอบตัดไม้ต่อไป
2. ขอความร่วมมือในการจับกุมคดีที่สำคัญและเป็นที่สนใจของมวลชน
3. กรณีการลักลอบตัดไม้มีค่า ที่มีลักษณะนักการเมืองเป็นนายทุน ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษทุกกรณี
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.)
1. เร่งรัดการตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้
2. ขอให้ส่งผลการพิจารณาตรวจสอบการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว เพื่อที่จะทำเป็นข้อมูลตรวจสอบขยายเครือข่ายขบวนการลักลอบค้าไม้มีค่าต่อไป
ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)
1. ขอความร่วมมือในการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ ตรวจยึด ไม้มีค่า
2. ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินแนวโน้มของสถานการณ์ที่อาจก่อให้เกิดภัยคุกคามด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และส่งข่าวกรองให้กับกรมป่าไม้