น้อง 'ลี เซียน ลุง' ร่วม 'ฝ่ายค้าน' เปิดหน้าชนพี่ชาย 'เลือกตั้งสิงคโปร์'

น้อง 'ลี เซียน ลุง' ร่วม 'ฝ่ายค้าน' เปิดหน้าชนพี่ชาย 'เลือกตั้งสิงคโปร์'

"ลี เซียน หยาง" น้องชายนายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุงของสิงคโปร์ ประกาศเข้าร่วมพรรคฝ่ายค้านเพื่อท้าชนกับพี่ชายที่ไม่ถูกกันในการเลือกตั้งในเดือนหน้า แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงสมัครหรือไม่

นายลี เซียน หยาง วัย 62 ปี น้องชายของนายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์วันนี้ (24 มิ.ย.) ว่า ได้เข้าร่วมพรรคสิงคโปร์ก้าวหน้า หรือ พีเอสพี (PSP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน เพื่อสู้กับพรรคกิจประชาชน หรือ พีเอพี (PAP) ของพี่ชายในการเลือกตั้งก่อนกำหนดที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 ก.ค.นี้ แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่

ก่อนหน้านี้ น้องชายผู้นำสิงคโปร์เคยวิจารณ์พรรคพีเอพีว่า ออกนอกลู่นอกทาง และเห็นด้วยกับหลักการและค่านิยมของพีเอสพี

พี่น้องตระกูลลีมีปัญหาขัดแย้งภายในครอบครัวอยู่ก่อนแล้ว โดยนายลี เซียน หยาง และนางลี เหวย หลิง วัย 65 ปี ทะเลาะกับนายลี เซียน ลุง วัย 68 ปีอย่างเปิดเผย โดยอ้างว่า พี่ชายคนโตไม่ยอมรื้อบ้านพักของนายลี กวน ยู บิดาผู้ก่อตั้งประเทศตามพินัยกรรม เพื่อหวังใช้ประโยชน์ส่วนตัว

พรรคพีเอสพีก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว โดยนายตัน เฉิง บ็อก วัย 80 ปี ที่ลาออกจากพรรคพีเอพีในปี 2554 เพื่อลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 7 ของสิงคโปร์ แต่พ่ายแพ้ให้แก่นายโทนี ตัน ที่ได้รับการสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรีลีด้วยคะแนนเฉียดฉิวเพียง 0.35% เท่านั้น

 

การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในสิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะเน้นไปที่การตอบสนองของรัฐบาลต่อโรคโควิด-19 รวมถึงมาตรการทางเศรษฐกิจ เพื่อรักษาและสร้างงาน และการปรับปรุงสภาพการทำงานของแรงงานต่างชาติ

การเลือกตั้งก่อนกำหนดของสิงคโปร์มีขึ้นหลังจาก นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง แถลงประกาศยุบสภาวานนี้ (23 มิ.ย.) เพื่อตัดสินใจวาระสำคัญในการฟื้นประเทศหลังเกิดการระบาดของโรคโควิด-19

นายกฯลี แถลงว่า การระบาดของโควิด-19 ในสิงคโปร์เริ่มคุมอยู่แล้ว และการเลือกตั้งจะทำให้รัฐบาลใหม่ที่จะมีอำนาจบริหาร 5 ปีเต็ม สามารถมุ่งเน้นไปที่วาระแห่งชาติได้

แม้การระบาดของโรคโควิด-19 ในสิงคโปร์เริ่มชะลอตัวลงแล้ว แต่ในทุก ๆ วันยังคงมีผู้ป่วยใหม่เพิ่มหลายร้อยคน และการระบาดของโรค และการจำกัดกิจกรรมทางธุรกิจก็ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน และทำให้รัฐบาลสิงคโปร์ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจของปีนี้ลงอย่างมาก

ปัจจุบัน สิงคโปร์มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันกว่า 40,000 คน และกว่า 90% ของผู้ป่วย มีความเกี่ยวข้องกับหอพักแรงงานต่างชาติ

คณะกรรมการการเลือกตั้งสิงคโปร์ห้ามไม่ให้มีการชุมนุมหาเสียงเลือกตั้งเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และจะจัดการถ่ายทอดสดการหาเสียงทั้งทางโทรทัศน์ และทางไลฟ์สตรีมแทน