'อนุสรณ์' โฆษกเพื่อไทย ชี้ รัฐบาลแก้แต่ปัญหาตัวเอง ไม่เป็นธรรมกับคนไทย
อนุสรณ์ ชี้ แม้พรรคพลังประชารัฐ จะได้กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แต่จากนี้ไปคงมีอีกหลายขั้นตอนกว่าจะไปถึงการปรับครม. ประชาชนคงต้องทนเห็นข่าวแยกก๊ก ทั้งที่ปัญหาของประเทศขณะนี้วิกฤติหนัก
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้พรรคพลังประชารัฐ จะได้กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แต่จากนี้ไปคงมีอีกหลายขั้นตอนกว่าจะไปถึงการปรับครม. ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการปรับครม.เมื่อไหร่ คนที่จะถูกปรับออก คงอยู่แบบซังกะตาย ไม่มีแรงบันดาลใจอะไร เหมือนพนักงานได้รับแจ้งว่าจะไม่ผ่านการทดลองงาน แต่ต้องทนอยู่จนกว่าจะหาคนใหม่ได้
ประชาชนคงต้องทนเห็นข่าวแยกก๊ก แบ่งมุ้ง วางบิล แย่งชามข้าว ฟัดกันไม่เลิก ทั้งที่ปัญหาของประเทศขณะนี้วิกฤติหนัก คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศปรับลดจีดีพีปีนี้ จากที่วิเคราะห์ว่าจะติดลบ 5.3 เปอร์เซ็นต์ เป็นติดลบถึง 8.1 เปอร์เซ็นต์ ติดลบหนักกว่าวิกฤติต้มยํากุ้งปี 2541 ที่จีดีพีประเทศไทยติดลบ 7.6 เปอร์เซ็นต์ ผลกระทบจากวิกฤติโควิดรุนแรงกว่าที่คาด การบริโภคของประชาชนในประเทศลด การลงทุนภาคเอกชนหดตัว การลงทุนจากต่างประเทศต่ำ การส่งออกสินค้าไทยเจ๊ง ธุรกิจท่องเที่ยวพัง กระทบทุกระดับ เงินเยียวยาหมดแล้ว รัฐบาลจะมีมาตรการอย่างไรต่อ ยังไม่มีความชัดเจน หลังวิกฤติโควิด คนไทยอยากเห็นการแก้ปัญหาประเทศแบบนิวนอร์มอล แต่โอกาสเกิดคงยาก เพราะการเมืองที่มีพรรคร่วมรัฐบาลมากที่สุดไม่ได้รับการปฏิรูป เป็นการเมืองแบบโอลด์นอร์มอลทั้งระบบ ตั้งแต่พรรคแกนหลักไปจนถึงพรรคร่วมรัฐบาล
“พล.อ.ประยุทธ์ จะหลบหลังโควิดตลอดไปไม่ได้ ประชาชนจะอดตาย เศรษฐกิจวิกฤติหนักทั้งระบบ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจจะปฏิเสธความรับผิดชอบและโยนบาปให้คนอื่นไม่ได้ การปล่อยให้คนไทยต้องรอรัฐบาลแก้ปัญหาของตัวเองก่อนทุกครั้ง ไม่เป็นธรรมกับคนไทย” นายอนุสรณ์ กล่าว