ทุบสถิติต่อเนื่อง! สหรัฐพบผู้ป่วยโควิดเพิ่มกว่า 5.3 หมื่นคนในวันเดียว
สหรัฐพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มกว่า 5.3 หมื่นคนในวันเดียว (2 ก.ค.) ทุบสถิติเมื่อวันพุธ (1 ก.ค.) ที่พบเพิ่มกว่า 5.1 หมื่น ขณะที่เกือบ 40 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐของสหรัฐอัตราผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ในเมืองบัลติมอร์ ระบุว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงนับถึงเวลา 20.30 น.ของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น หรือ 7.30 น.วันนี้ (3 ก.ค.) ตามเวลาไทย สหรัฐพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 53,069 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมทั่วประเทศเพิ่มเป็น 2,735,339 คน ขณะที่ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 649 คนเป็น 128,677 คน
ตัวเลขผู้ป่วยรายวันดังกล่าวนับเป็นยอดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐ อีกทั้งมากกว่ายอดรายวันรวมกันของทั้งเดือนที่แล้ว 2 เท่า และสูงกว่ายอดรายวันช่วงที่สหรัฐเผชิญการระบาดหนักที่สุดระหว่างเดือน เม.ย.-พ.ค. ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันยังมีสัญญาณที่น่าหวั่นวิตกเกี่ยวกับการระบาดรอบใหม่ โดยพลเมืองใน 36 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐของสหรัฐ มีอัตราการตรวจเชื้อโควิดเป็นบวก (ติดเชื้อ) เพิ่มขึ้นในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
รัฐฟลอริดา เป็นหนึ่งในรัฐที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการระบาดระลอกเดือน มิ.ย. หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 10,000 คนในวันพฤหัสบดี สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาด
ส่วนรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกหนึ่งศูนย์กลางของโรคระบาดใหญ่ รายงานว่า จำนวนผู้มีผลตรวจโควิดเป็นบวกเพิ่มขึ้นถึง 37% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และในนั้น 56% ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
ตัวเลขผู้ป่วยโควิดที่พุ่งขึ้นรอบใหม่ ทำให้ผู้ว่าการรัฐต่าง ๆ พากันระงับและชะลอแผนกลับมาเปิดเศรษฐกิจของแต่ละรัฐ หลังอยู่ภายใต้มาตรการล็อคดาวน์เข้มงวดมาหลายเดือน ซึ่งหนึ่งในมาตรการนั้นรวมถึงการปิดชายหาดและยกเลิกการแสดงพลุไฟ เนื่องในวันชาติสหรัฐช่วงสุดสัปดาห์นี้