ซักฟอกงบท้องถิ่นซุก 'หาเสียง' ฝ่ายค้านชี้กระจุกตัว-ไม่ทั่วถึง นายกฯ พ้อสนองทุกคนไม่ได้
ถกงบ 64 วันสุดท้าย ฝ่ายค้านล็อกเป้างบท้องถิ่น โวยไม่ตอบโจทย์-ซุกโครงการหาเสียง ปูดใบสั่งผู้มีอิทธิพล จัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ดับไฟป่า ด้านนายกฯย้ำ โปร่งใส-ทั่วถึง พ้อตอบสนองทุกความต้องการไม่ได้
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ในวาระแรกเป็นวันที่สาม(3ก.ค.) ในช่วงเย็น สมาชิกยังมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสัดส่วนของงบประมาณที่กระจุกตัวอยู่บางพื้นที่หรือบางกระทรวง
อาทิ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า งบฯ 64 เป็นงบประมาณที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน และไม่ตอบโจทย์ประเทศในยุคโควิดแม้แต่น้อย ขณะที่การกระจายอำนาจถูกขัดขวางหลายครั้งจากการรัฐประหาร แม้งบ 64 จะมีงบประมาณสำหรับท้องถิ่นประมาณ 29% หรือประมาณ 7 แสนล้านบาท แต่พบว่างบประมาณกว่าครึ่งหนึ่งเป็นงบที่ส่วนกลางโอนเท่านั้น
นอกจากนี้ กองทุนประชารัฐสวัสดิการ 2,600 ล้านบาท ยังเข้ามาแทรกอยู่ในงบประมาณของท้องถิ่นด้วย ซึ่งเรียกว่าเป็นงบประมาณสำหรับหาเสียง
ด้านนายวิสาร เตะชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า กระทรวงมหาดไทยมีการใช้งบประมาณบางรายการที่ไม่จำเป็น โดยพบว่ามีการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ มูลค่า 1,800 ล้านบาทเพื่อดับไฟป่า ทั้งๆ ที่การดับไฟป่า วิธีการง่ายๆ ชาวบ้านเขาใช้เครื่องพ่นยา
ที่สำคัญ มีข่าวว่าถูกสั่งการจากผู้มีอิทธิพลจากส่วนกลาง โดยบริษัทที่ได้คือบริษัทดาต้าเกต ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นคู่สัญญากับกองทัพบกตั้งแต่สมัย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นผู้บัญชาการทหารบก
ดังนั้นการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ถือว่าเกินความจำเป็น ในภาวะวิกฤติอย่างนี้ ตนว่าประเทศไทยต้องใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ขณะเดียวกัน สมาชิกยังมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสัดส่วนของงบประมาณ อาทิ นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่อภิปรายถึงงบด้านคมนาคม ที่อาจทุ่มลงไปกับโครงการที่ไม่จำเป็น
โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจง โครงการด้านคมนาคม เรื่องนี้เป็นเพียงแผนงานและแนวคิด ซึ่งการจัดทำจะต้องไปศึกษารายละเอียดอีกครั้ง ขณะที่การลงทุนของภาครัฐ มุ่งเน้นไปที่การร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน(PPP) โดยมีการประมูล เซ็นสัญญา รวมถึงดำเนินการทุกอย่างอย่างโปร่งใสตามกฎหมาย
ทั้งนี้ในการจัดสรรงบประมาณ ถ้าต้องทำตามความต้องการของทั้งหมด ขอถามว่าประเทศชาติจะเอาเงินจากที่ไหน ยืนยันว่าทุกโครงการมีการเสนอผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองทุกระดับ ไม่เคยไม่เรียกรับผลประโยชน์จากใคร ทุกอย่างสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม ไม่ใช่ว่าจะทำโง่ ๆ ไปแล้วที่เหลือต้องมาทำโง่ๆ ตาม
ส่วนหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณที่ไม่เพียงพอ จะมีการชะลอโครงการที่ไม่จำเป็น ขณะที่การเยียวยาโควิด ยังมีงบกลางในการเยียวยาในส่วนนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับผู้มีรายได้น้อย
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ชี้แจงว่า การจัดซื้ออุปกรณ์ทำเท่าที่จำเป็น และพยายามรวมกันใช้อุปกรณ์ให้ประหยัดที่สุด ส่วนเฮลิคอปเตอร์ที่จะจัดซื้อนั้น เป็นเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยทำได้ทั้งการขนน้ำไปเทดับไฟ และยังมีเครื่องฉีดน้ำเข้าไปดับเพลิงในตึก ซึ่งเราไม่เคยมีเป็นของตัวเอง ในต่างประเทศ การบรรเทาสาธารณภัยต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ของฝ่ายพลเรือน ไม่ใช่ไปขอยืมจากกองทัพมาใช้
ส่วนเรื่องการจัดซื้อ จะมีความโปร่งใสหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรี ส.ส. หรือท้องถิ่น ถ้าใครทำผิดก็ต้องโดนกฎหมาย
เช่นเดียวกับนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ชี้แจงว่า รัฐบาลมุ่งเน้นการสร้างระบบขนส่งไทยสู่เมืองรอง โดยจนถึงขณะนี้กรมท่าอากาศยานได้รับงบ 1.4 หมื่นล้านบาท กระจายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ถ้าสิ้นนโยบายนี้ในปี 2568 จะใช้งบประมาณ 3.6 หมื่นล้าน ยืนยันว่าวันนี้หลายโครงการอยู่ระหว่างการพิจารณาและเตรียมนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)
ส่วนความเคลื่อนไหวทางการเมือง วันเดียวกันนี้ เพจกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย Democracy Restoration Group-DRG โพสต์ข้อความ ระบุว่า 7 ผู้ร่วมกิจกรรมฉายโฮโลแกรมคณะราษฎรโดนหมายเรียกอ้างผิด พ.ร.บ.ความสะอาด ป.อาญา มีรายงานว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรม “ลบยังไงก็ไม่ลืม” ฉายโฮโลแกรมการอ่านประกาศคณะราษฎรที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อย่ำรุ่งวันที่ 24 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา อย่างน้อย 7 คนได้รับหมายเรียกจาก สน.สำราญราษฎร์