ผงะ! จนท.ศูนย์กักกันเข้าเมือง 'สหรัฐ' ติดโควิด เฉียดพัน
"สหรัฐ" เผยพบเจ้าหน้าที่ศูนย์กักกันเข้าเมือง ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 930 คน หวั่นระบาดเพิ่มในจุดเชื่อมต่อชายแดน 70 แห่งทางตอนใต้ของประเทศ
บริษัทเอกชนที่ดูแลศูนย์กักกันคนเข้าเมืองในสหรัฐ เปิดเผยว่า มีพนักงานมากกว่า 930 คนติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากขาดแคลนชุดพีพีอี ไม่ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเพียงพอ และได้รับการตรวจหาเชื้อล่าช้า
ผู้บริหารของบริษัท 4 แห่งได้แก่ คอร์ซิวิค, เดอะ จีอีโอ กรุ๊ป, แมเนจเมนต์ แอนด์เทรนนิง คอร์ป และ ลาแซลล์ คอร์เรคชั่น ที่รับผิดชอบควบคุมตัวผู้อพยพเข้าเมืองภายในศูนย์กักกันคนเข้าเมืองภายใต้สัญญาว่าจ้างจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐ (ICE) ระบุในคำชี้แจงที่ยื่นต่อรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันจันทร์ว่ามีพนักงานของบริษัทมากกว่า 930 คนติดเชื้อโควิด-19 โดย 554 คนเป็นพนักงานของคอร์ซิวิค, 167 คนเป็นพนักงานของจีอีโอ กรุ๊ป, อีก 73 คนเป็นพนักงานของแมเนจเมนต์ แอนด์ เทรนนิง คอร์ป และ 144 คนเป็นพนักงานของลาแซลล์ คอร์เรคชัน
ขณะที่ ICE รายงานว่า มีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อรวม 45 คนในศูนย์กักกันคนเข้าเมืองหลายแห่ง
การเปิดเผยข้อมูลจากบริษัททั้ง 4 แห่งมีขึ้น ขณะที่สภาคองเกรสกำลังตรวจสอบประเด็นการรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 และแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ระบาดภายในศูนย์กักกันคนเข้าเมืองเกือบ 70 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีผู้อพยพเข้าเมืองกว่า 3,000 คนในการควบคุมของติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งหลายคนหายดีหรือได้รับการปล่อยตัวแล้ว
แคธลีน ไรซ์ ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงภายในของสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครต เปิดเผยว่า มีกระแสข่าวว่า พนักงานในศูนย์กักกันคนเข้าเมืองประสบปัญหาขาดแคลนชุดพีพีอี จนต้องปันส่วนกัน ไม่ได้รับการักษาพยาบาลอย่างเพียงพอ และได้รับการตรวจหาเชื้อล่าช้า
ปัจจุบันมีผู้ถูกกักตัวเกือบ 22,580 คนอยู่ในการควบคุมของ ICE ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับการจับกุมผู้อพยพเข้าเมืองเฉลี่ยในแต่วันมากกว่า 50,000 คนในช่วงปีงบประมาณ 2562 การจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองบริเวณพรมแดนสหรัฐและเม็กซิโกลดลงในช่วงหลายเดือนนี้ และศาลสั่งปล่อยตัวเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดโรคโควิด-19