จับตาบทบาท 'ทวิตเตอร์' รับมือแฮกเกอร์ป่วน 'เลือกตั้งสหรัฐ'
การที่ "ทวิตเตอร์" ถูกเจาะระบบครั้งใหญ่ บัญชีคนดังรวมทั้งอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ถูกล้วงจนต้องระงับการใช้บัญชีกันไปชั่วคราว ก่อให้เกิดคำถามถึงความปลอดภัยด้านข้อมูลของแพลตฟอร์มดัง โดยเฉพาะในช่วงที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือน พ.ย.
ทวิตเตอร์ บริษัทโซเชียลมีเดียรายใหญ่ของสหรัฐ แถลงเมื่อเย็นวันพุธ (15 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา แฮกเกอร์ขโมยรหัสเข้าระบบของพนักงาน เจาะระบบเข้าบัญชีผู้ใช้งานจำนวนมากได้รับผลกระทบด้านความปลอดภัยจนไม่สามารถใช้งานได้ เช่น อดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครตลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐในเดือนพ.ย. อีลอน มัสก์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัทเทสลาและสเปซเอ็กซ์ เจฟฟ์ เบซอส ซีอีโอบริษัทอเมซอน ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกออนไลน์ บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ และแม้กระทั่งแอ๊ปเปิ้ล บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่
บริษัททวีตแจ้งข่าวต่อเนื่องหลายข้อความ ระบุ “เราตรวจพบสิ่งที่เชื่อว่าเป็นการร่วมมือกันโจมตีทางวิศวกรรมคอมพิวเตอร์โดยกลุ่มคนที่พุ่งเป้าไปที่พนักงานของเราที่มีรหัสเข้าระบบภายในได้จากนั้น แฮกเกอร์สามารถใช้รหัสผ่านเข้าไปควบคุมบัญชีดังกล่าวแล้วทวีตข้อความแทนเจ้าของ”
ถ้อยแถลงของทวิตเตอร์ตอกย้ำถึงความกังวลของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไอทีว่า ระบบกำลังถูกทำให้หย่อนยานมากกว่าผู้ใช้งานทำเอง
บทบาทของทวิตเตอร์ในฐานะเป็นช่องทางการสื่อสารสำคัญของผู้สมัครลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและนักการเมืองอื่นๆ รวมทั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทำให้เกิดความกังวลว่า บรรดาแฮกเกอร์อาจสามารถสร้างความปั่นป่วนในวันเลือกตั้งประธานาธิบดี 3 พ.ย. หรือแม้กระทั่งป่วนความมั่นคงแห่งชาติได้
อดัม คอนเนอร์ รองประธานฝ่ายนโยบายเทคโนโลยี ศูนย์อเมริกันก้าวหน้า กลุ่มคลังสมองแนวเสรีนิยม ทวีตข้อความระบุ “นี่เป็นเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นในวันที่ 15 ก.ค. แต่จะยิ่งแย่หนักถ้าเกิดในวันที่ 3 พ.ย.”
สำหรับวีรกรรมครั้งนี้ เมื่อแฮกเกอร์เจาะเข้าระบบได้แล้วก็ทำทีเป็นคนดังเหล่านั้นขอให้ผู้ติดตามทวิตเตอร์บริจาคเงินเป็นบิทคอยน์ ภายในตอนเย็น มีการโอนเงินเข้าบัญชีที่ถูกแฮกมากถึงกว่า 400 บิทคอยน์มูลค่ากว่า 120,000 ดอลลาร์
เอลลิปติก บริษัทตรวจสอบการเงิน เผยว่า เหยื่อครึ่งหนึ่งลงทุนในตลาดบิทคอยน์สหรัฐ ที่เหลือลงทุนในยุโรปและเอเชียอย่างละ 1 ใน 4
การโอนบิทคอยน์ครั้งนี้ทิ้งหลักฐานให้พนักงานสืบสวนตามแกะรอยได้ ความเสียหายทางการเงินอาจอยู่ในวงจำกัด เพราะทวิตเตอร์ระงับบัญชีได้ทัน แต่ชื่อเสียงของทวิตเตอร์อาจเสียหายยิ่งกว่า สิ่งที่บางคนหงุดหงิดมากคือระยะเวลาที่บริษัทใช้ในการระงับทวีตก่อกวนครั้งนี้
"การตอบโต้แฮกเกอร์ของทวิตเตอร์เหลือเชื่อมาก เหตุเกิดกลางวันแสกๆ ของซานฟรานซิสโกต้องใช้เวลาตั้ง 5 ชั่วโมงกว่าจะจัดการได้" แดน กุยโด ซีอีโอบริษัทความมั่นคงไซเบอร์ "เทรลออฟบิตส์" ให้ความเห็น
และที่น่าห่วงขึ้นไปอีกคือ การหลอกให้โอนบิทคอยน์อาจเป็นแค่การตบตาการล้วงข้อมูลที่ร้ายแรงยิ่งกว่า เช่น การรวบรวมข้อความโดยตรงของเจ้าของบัญชีไปใช้ประโยชน์
ทวิตเตอร์ก็ยังไม่ทราบชัดเจนถึงสิ่งที่พวกแฮกเกอร์ต้องการทำมากกว่าแค่ส่งข้อความหลอกเอาบิทคอยน์ บริษัทเผยว่า กำลังตรวจสอบสิ่งที่แฮกเกอร์ทำ หรือข้อมูลที่ถูกเจาะ จากนั้นจะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบ
การขโมยรหัสพนักงานมาเข้าบัญชีผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมาก หรือปัญหากับแอพพลิเคชันของคนนอกเคยเกิดขึ้นมาแล้ว แต่ครั้งนี้ถือว่าเลวร้ายที่สุดเพราะเจ้าของบัญชีหลายๆ คนเซ็ตระบบความปลอดภัยผ่านการเข้ารหัสซ้ำเพื่อยืนยันตัวตน แต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้
“ถ้าพวกแฮกเกอร์สามารถเข้าระบบหลังบ้านหรือฐานข้อมูลของทวิตเตอร์ได้โดยตรงก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่จะหยุดพวกเขาไม่ให้ขโมยข้อมูลไปได้ นอกเหนือไปจากการทวีตโกงอะไรหลอกๆแบบนั้น” ไมเคิล บอโรฮอฟสกี ผู้อำนวยการบริษัทความปลอดภัยด้านซอฟแวร์ ซินนอพซิส กล่าว