'ราคาปาล์มน้ำมัน' จ่อร่วงหลังสต็อกล้น
กรมการค้าภายใน หวั่นราคาปาล์มดิบร่วง หลัง 2 เดือนสต็อกน้ำมันปาล์มพุ่งเกิน 4.9 แสนตัน เร่งผลักดัน กฟผ.-ปั๊ม-ส่งออกดูดซับส่วนเกิน
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ผลจากการล็อกดาวน์ประเทศกระทบต่อการเดินทางและการท่องเที่ยวทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลบี20และบี100 ที่ใช้ปาล์มน้ำมันเป็นวัตถุดิบลดลงกว่า 20% รวมถึงการบริโภคภายในครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมลดลง สวนทางกับปริมาณผลปาล์มทะลายยังออกสู่ตลาดเพิ่มจากวันละ 1.5-1.6 ล้านตัน เป็น 1.7 ล้านตัน ส่งผลให้ เกิดปัญหาสต็อกน้ำมันปาล์มในรูป ซีพีโอ(CPO) เพิ่มขึ้น จาก 1.7 แสนตันในเดือนก.พ. เป็น 4.9 แสนตันในเดือนก.ค.
ปัญหาสต็อกดังกล่าว ส่งผลให้ราคาปาล์มดิบในขณะนี้ปรับลดลงเหลือ 3 - 3.20 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ 4 บาทต่อกก. และน้ำมันปาล์ม มีราคาที่ 19-21 บาทต่อกก. ลดลงจาก 22 บาทต่อกก. ดังนั้นต้องเร่งแก้ปัญหาและออกมาตรการรับมือ โดยเร่งรัดการดูดซับน้ำมันส่วนเกินออกจากสต็อกซึ่งเพียง 3 เดือนปริมาณสูงถึง 4.9 แสนตัน
เบื้องต้นได้ประสานให้กระทรวงพลังงาน เร่งรัดการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)รับมอบน้ำมันปาล์ม ที่เหลืออีก 3.7 หมื่นตันภายในเดือนก.ค.นี้ เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานในการผลิตไฟฟ้า และตามมติ ครม.มอบหมายให้ กฟผ.ซื้อเพิ่มอีก 2 แสนตัน รวมทั้งให้กระทรวงพลังงานเพิ่มการผลิตบี100และบี20 หลังจากมีการคลายล็อกแล้ว ที่การเดินทางท่องเที่ยวและการบริโภคจะกลับมาเพิ่มขึ้น และเตรียมหารือกรมส่งเสริมการส่งออกในการเร่งรัดการส่งออก
“ปัญหาปาล์มตอนนี้คือภาคบริโภคลดลงแต่ผลผลิตเพิ่มขึ้น จนกระทบต่อราคาปาล์มลดลง ไม่ได้เกิดจากการลักลอบนำเข้าจนเกิดภาวะปาล์มสต็อกล้น เพราะเทียบราคาไทยกับมาเลเซียห่างกันเพียง 1 บาทต่อกก. จึงไม่คุ้มที่จะลักลอบ ไม่เหมือนอดีตราคาห่างกัน3-4 บาทต่อกก. อย่างไรก็ตามกรมได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อนำเสนอมาตรการในการเร่งดูแลให้ทันเวลา “
ส่วนความคืบหน้าติดตั้งมิเตอร์เพื่อวัดปริมาณสต็อกน้ำมันในแทงก์เก็บน้ำมัน อยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้างหลังจากที่มีการชะลอไปก่อนเนื่องจากงบประมาณถูกกันไปช่วยแก้ปัญหาภัยโควิด-19