น้ำไหลหลากในพื้นที่ 16 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 282 ครัวเรือน

น้ำไหลหลากในพื้นที่ 16 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 282 ครัวเรือน

ปภ.รายงานเกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 16 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 282 ครัวเรือน

วันนี้ (30 ก.ค.63) เวลา 08.30 น. กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน (30 ก.ค.63) เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 16 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก เพชรบูรณ์ นครราชสีมา เลย ปทุมธานี กาญจนบุรี สมุทรสาคร ชลบุรี นครศรีธรรมราช ยะลา กระบี่ และสุราษฎร์ธานี รวม 18 อำเภอ 29 ตำบล 50 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 282 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน (30 ก.ค. 63) ส่งผลให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำไหลหลาก 16 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก เพชรบูรณ์ นครราชสีมา เลย ปทุมธานี กาญจนบุรี สมุทรสาคร ชลบุรี นครศรีธรรมราช ยะลา กระบี่ และสุราษฎร์ธานี รวม 18 อำเภอ 29 ตำบล 50 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 282 ครัวเรือน โบสถ์คริสต์ 1 แห่ง ถนน 9 สาย รถยนต์ 2 คัน สะพานไม้ชำรุด 1 แห่ง คอสะพาน 8 แห่ง ฝาย 12 แห่ง พื้นที่การเกษตร 10 ไร่ โค 2 ตัว

ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดย แม่ฮ่องสอน ในพื้นที่อำเภอปางมะผ้า รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน เชียงใหม่ พื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ลำพูน ในพื้นที่อำเภอแม่ทา รวม 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน ลำปาง ในพื้นที่อำเภอเมืองปานและวังเหนือ รวม 7 ตำบล 22 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 145 หลังคาเรือน ตาก ในพื้นที่อำเภอท่าสองยาง รวม 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน เพชรบูรณ์ ในพื้นที่อำเภอหล่มเก่า รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 10 หลังคาเรือน นครราชสีมา ในพื้นที่อำเภอปากช่อง รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 21 หลังคาเรือน เลย ในพื้นที่อำเภอเชียงคานและด่านซ้าย รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ปทุมธานี ในพื้นที่อำเภอคลองหลวง รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 100 หลังคาเรือน กาญจนบุรี ในพื้นที่อำเภอเลาขวัญ รวม 1 ตำบล 5 หมู่บ้าน สมุทรสาคร ในพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ชลบุรี ในพื้นที่อำเภอบางละมุง รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 4 หลังคาเรือน นครศรีธรรมราช ในพื้นที่อำเภอท่าศาลา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ยะลา ในพื้นที่อำเภอกรงปินัง รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน กระบี่ ในพื้นที่อำเภอเกาะลันตา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน สุราษฎร์ธานี ในพื้นที่อำเภอไชยา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 2 หลังคาเรือน

ปัจจุบันสถานการณ์ภัยคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว ท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป