'ผบ.ตร.' สั่งสำรองราชการ 'วิระชัย' เป็นไปตามกฎ
"โฆษกตร." แจง "พล.ต.อ.จักรทิพย์" สั่งสำรองราชการ "วิระชัย" เป็นไปตามกฎ "ก.ตร." เหตุโดนสอบวินัยร้ายแรง แต่ยังรับเงินเดือน ต่อสู้ได้ปกติทุกอย่าง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีคำสั่งสำรองราชการ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า หลังจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งเรื่องขอตัว พล.ต.อ.วิระชัย กลับต้นสังกัดเนื่องจากกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงเรียบร้อย ทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้ส่งเรื่องไปยังกองวินัยดำเนินการ กระทั้งมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หลังจากมีคำสั่งตั้งวินัยร้ายแรง ต่อจากนั้นกองกฎหมายและคดีได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ด้วยกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสำรองราชการ พ.ศ.2548 ข้อ 3 (1) ระบุว่ากรณีข้าราชการตำรวจที่ถูกตั้งคณะกรรมการวินัยร้ายแรง ต้องมีการดำเนินการเรื่องสำรองราชการ ผบ.ตร. จึงมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิระชัย สำรองราชการ การสำรองราชการเป็นกระบวนการหนึ่งเป็นไปตามที่ ก.ตร.กำหนดไว้
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า พล.ต.อ.วิระชัยยังรับราชการตำรวจอยู่ แต่ตำแหน่งปัจจุบันคือสำรองราชการ รับเงินเดือนตามปกติ โดยท่านสามารถต่อสู้ทั้งทางวินัยและคดีอาญาตามปกติทุกอย่าง เพียงแต่ขณะนี้ไม่ได้ดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร. เท่านั้น อย่างไรก็ตาม การที่ผบ.ตร. มีคำสั่งสำรองราชการดังกล่าวนั้น ได้อาศัยเนื้อหาสาระการกระทำผิดวินัยร้ายแรง ส่วนรายละเอียดการดำเนินการอยู่ที่คณะกรรมการวินัยร้ายแรงที่มี พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานสอบสวนตามกระบวนการ ซึ่งตามกฎได้กำหนดห้วงเวลาไว้แล้ว ต้องรอฟังจากคณะกรรมการก่อนที่จะรีบด่วนสรุป