รับสั่ง ครม.ใหม่ 'ทำสิ่งถูกต้อง'
ในหลวงโปรดเกล้าฯ “ประยุทธ์” นำครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเข้ารับหน้าที่ 2รัฐมนตรีป้ายแดง เผยรับสั่งทรงพระราชทานกำลังใจ ขอให้ทำหน้าที่ให้ดี-ทำสิ่งถูกต้องเพื่อประชาชน จับตาถก ครม.ประยุทธ์2/2 นัดแรก ตั้งโฆษกรัฐบาล
วานนี้ (12ส.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ออกพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ประกอบด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ และรองนายกรัฐมนตรี , นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน , นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นายปรีดี ดาวฉาย รมว.คลัง , นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน
ทั้งนี้บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ช่วงเช้ามีบรรดารัฐมนตรีใหม่ทยอยเดินทางมารวมตัว เพื่อถ่ายรูปทำบัตรรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน โดยนางนฤมลน เดินทางมาถึงเป็นคนแรก เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตื่นเต้นหรือไม่ นางนฤมลปฏิเสธที่จะตอบก่อนเดินขึ้นไปยังตึกสันติไมตรีไปทันที
ตามมาด้วยนายอนุชา และนายสุชาติ โดยนายอนุชา กล่าวสั้นๆว่า “ตื่นเต้น แต่พร้อมทำงาน”
ต่อมา นายสุพัฒนพงษ์ , นายปรีดี และนายเอนกได้เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาลตามลำดับ โดยนายดอน ได้เดินถึงเป้นคนสุดท้ายเนื่องจากได้เข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ท้องสนามหลวงในช่วงเช้า
จากนั้นเวลา 08.30 น. รัฐมนตรีใหม่ทั้ง 6 คน ได้ถ่ายรูปร่วมกันก่อนออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้นำคณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
รับสั่ง“ทำสิ่งถูกต้องเพื่อปชช.”
โดยนางนฤมล กล่าวภายหลังเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่ง ว่า ในหลวงมีรับสั่งให้กำลังใจ และให้มีพลังทำสิ่งที่ถูกต้องให้ประชาชนมีความสุข เราทุกคนต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจได้เตรียมนโยบายอะไรไว้บ้าง นางนฤมล กล่าวว่า ขอรอรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี และทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานก่อน ส่วนปัญหาตัวเลขแรงงานว่างงานต้องรอนโยบายจากนายกรัฐมนตรีด้วยเช่นกัน
ถามย้ำว่าสนใจกรมใดเป็นพิเศษหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมาย
ด้านนายเอนก ได้เดินทางเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ โดยได้ขึ้นสักการะพระพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนที่จะลงมาไหว้ศาลพระภูมิและศาลตายายประจำทำเนียบฯ จากนั้น นายเอนก เปิดเผยว่า ในหลวงทรงพระราชทานกำลังใจให้พรขอให้ทำหน้าที่ให้ดี ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม พระองค์ทรงเปี่ยมไปด้วยพระเมตตา
อย่างไรก็ตาม สำหรับการทำงานในหน้าที่รัฐมนตรี ก็ขอให้ช่วยๆ กัน ส่วนนโยบายในการทำงานก็ค่อยว่ากัน
ประเดิมประชุมครม.นัดแรกวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเข้าเฝ้าฯ ครม.ชุดใหม่ พร้อมคู่สมรส ได้เดินทางไปลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ห้องแดงอาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรมมหาราชวัง
ส่วนวันนี้ (13 ส.ค.) เวลา 08.00 น. ครม.ทั้งหมดมีกำหนดการถ่ายรูปหมู่ร่วมกันหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งไปยังครม.ทุกคนสวมใส่ชุดปกติขาว โดยภายหลังถ่ายภาพร่วมกันเสร็จแล้วครม.จะใส่ชุดผ้าไหมไทย เพื่อเข้าร่วมประชุมครม.ซึ่งจะใช้ตึกสันติไมตรีหลังนอก
มีรายงานว่าเวลา 06.14 น. นายอนุชาจะเข้าสักการะสิ่งศักดิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล , ขณะที่นายสุพัฒนพงษ์จะเข้ากระทรวงพลังงานครั้งแรกวันนี้เวลา 06.00 น.จากนั้นจึงจะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อประชุมครม. และมีกำหนดพบปะสื่อมวลชนกระทรวงพลังงานวันที่ 14 ส.ค.2563 เช่นเดียวกับนายสุชาติและนางนฤมล จะเข้าสักการะสิ่งศักดิ์ประจำกระทรวงแรงงานวันนี้ในเวลา 07.29 น.
นอกจากนี้ ในการประชุมครม.นัดแรกมีรายงานด้วยว่า หลังการประชุมจะมีโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่มาทำหน้าที่แถลงข่าวครั้งแรกด้วย โดยรายชื่อบุคคลที่คาดว่าจะเป็นโฆษกรัฐบาลประกอบด้วยนายทศพล เพ็งส้ม, นายธนกร วังบุญคงชนะ และ นายอนุชา บูรพชัยศรี
วันเดียวกันพล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ได้มีหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยระบุว่าหลังจากที่นายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ และอนุมัติให้มีการผ่อนคลายบังคับใช้กฎหมายสำหรับกิจกรรมที่ได้เปิดดำเนินการแล้ว ในห้วงเวลาที่ผ่านมาเพิ่มเติมคือให้เปิดโรงเรียนสถาบันการศึกษาหรือมหาวิทยาลัยต่างๆและสถาบันกวดวิชา on site ให้มีการแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชมและให้ระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางบกและทางน้ำมีจำนวนผู้โดยสารได้เต็มความจุมาตรฐานของพาหนะโดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.เป็นต้นไปโดยทั้งสามเรื่องจะต้องเป็นไปตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด