ทส.จับได้แล้ว! 2 ชาวต่างชาติ จับสัตว์ทะเลมาเซลฟี่เล่น
“รมต.วราวุธ” ฉุน! สั่งตรวจสอบละเอียด พร้อมจัดการตามกฎหมาย ทุกข้อหาอย่างเด็ดขาด
กรณีชาวต่างชาติ 2 ราย ลงดำน้ำบริเวณเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี และได้จับสัตว์ทะเลมาเล่นและใช้ไม้เซลฟี่เขี่ยปลาให้ตื่น โดยมีผู้เผยแพร่ผ่านทางเฟสบุ๊กจนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ย้ำพฤติกรรมดังกล่าวไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง พร้อมสั่งตรวจสอบโดยละเอียด หากพบความผิดทุกกรณีให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ด้านกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลุยลงพื้นที่ติดตามจับกุมทั้ง 2 ราย ได้แล้ว เพื่อส่งให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ทันทีที่ตนได้ทราบข่าว ตนได้สั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที พร้อมทั้งให้ติดตามชายชาวต่างชาติดังกล่าวเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ต่อไป นอกจากนี้ ตนได้ขอให้ตรวจสอบรายละเอียดของชายชาวต่างชาติทั้ง 2 ราย ว่าประกอบอาชีพหรือกิจการใดในพื้นที่ รวมทั้ง ใบอนุญาตดำน้ำ และใบอนุญาตประกอบกิจการอื่นที่เกี่ยวข้อง ว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้อง ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด
เหนือสิ่งอื่นใด ตนต้องขอขอบคุณผู้ที่นำภาพการกระทำดังกล่าวเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าทุกคนต่างช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการดูแล เฝ้าระวัง และอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และทุกความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าว ก็เป็นไปในเดียวกันว่า เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างที่สุด ตนได้ขอให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้กำกับเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด สุดท้ายตนขอฝากพี่น้องประชาชน “ท้องทะเลเปรียบเสมือนบ้านของสัตว์ทะเลและทรัพยากรทางทะเล มนุษย์เราแค่เข้าบ้านผู้อื่นโดยไม่ได้รับเชิญก็ถือว่าไม่เหมาะสมแล้ว ยิ่งหากไปสร้างความรบกวน เสียหาย แก่ตัวเจ้าของบ้านและทรัพย์สิน ยิ่งนับเป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง”
ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (สทช. 4) ประสานนายอำเภอและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามชายชาวต่างชาติทั้ง 2 ราย ได้เรียบร้อยแล้ว ทราบชื่อทั้ง 2 ราย จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่า เป็นครูสอนดำน้ำและเป็นเจ้าของร้านอาหาร และชาวต่างชาติอีกราย เป็นพ่อครัวอยู่ที่ร้านอาหารบนเกาะพะงัน มีเรือ Speed boat และชอบพาลูกค้าร้านอาหารไปดำน้ำ
ทั้งนี้ ได้ให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ สำนักงานตำรวจภูธรเกาะพะงัน โดยทั้ง 2 คน สารภาพว่าเป็นผู้บันทึกวีดีโอดังกล่าว บริเวณหาดสลัด เกาะพะงัน และเผยแพร่ทางยูทูป และเจ้าหน้าที่ สทช. 4 ได้แจ้งลงบันทึกประจำวัน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ต่อไป อย่างไรก็ตาม พื้นที่เกิดเหตุถูกกำหนดเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม การกระทำการฝ่าฝืนจะถูกปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ตรวจสอบใบอนุญาตสอนดำน้ำ รวมทั้ง ใบอนุญาตอื่น ๆ นอกจากนี้ ตนได้ประสานหารือกับนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินคดีตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในทุกข้อหา หากพบการกระทำความผิด ซึ่งจากการให้ปากคำเบื้องต้นได้เปรียบเทียบปรับ ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวไม่แจ้งเปลี่ยนที่อยู่อาศัยต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาที่เข้าพักอาศัย และปรับภรรยาคนไทย ข้อหาเป็นเจ้าบ้าน เจ้าของหรือผู้ครอบครองเคหะสถานหรือผู้จัดการโรงแรม รับคนต่างด้าว ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เข้าพักอาศัยโดยไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม หากมีการพบเห็นการกระทำผิดหรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่อาจก่อความเสียหายต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ขอให้แจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ทันที ทั้งทางหน่วยงานในพื้นที่ ช่องทางสื่อออนไลน์ หรือสายด่วน 1310 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้เร่งรัดดำเนินการทันที ต่อไป