กลุ่ม 'คุณพระช่วย' แสดงจุดยืนคัดค้านแถลงการณ์ 'กลุ่มไทยภักดี'
กลุ่ม "คุณพระช่วย" แสดงจุดยืนคัดค้านแถลงการณ์ "กลุ่มไทยภักดี" แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมทางการญี่ปุ่น กรณีความคิดเห็น "ปวิน" นักวิชาการฯ ขณะที่ "เอกชัย-ไมค์ ระยอง" โผล่ให้กำลังใจ ย้ำยังยืนยันสู้ อุดมการณ์เหมือนเดิม ไม่มีใครเปลี่ยนความคิดได้ รับปากไปร่ว
เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 63 ที่บริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น กลุ่มคุณพระช่วย ได้แสดงจุดยืนคัดค้านแถลงการณ์ของกลุ่มไทยภักดีที่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของทางการญี่ปุ่นกรณีการแสดงความเห็นของปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ และให้กำลังใจประเทศญี่ปุ่น
ตัวแทนกลุ่มคุณพระช่วย เปิดเผยว่า ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพการแสดงออกเท่าเทียมกัน วันนี้จึงมาให้กำลังใจปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ รวมถึงสถานทูตและประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามถ้ามีอีกกลุ่มมายื่นอีก เราก็อาจจะมาให้กำลังใจอีกต่อไป จากนั้นได้อ่านแถลงการณ์ระบุว่า ปลายเดือนที่ผ่านมามีกลุ่มบุคคล 2 กลุ่ม คือคณะบุคคลเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และไทยภักดียื่นหนังสือต่อสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ต่อกรณีการแสดงความเห็นของปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษามหาวิทยาลัยเกียวโต กลุ่มเหล่านี้เรียกร้องต่อรัฐบาลญี่ปุ่นให้ดำเนินการละเมิดต่อปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ เช่น การห้ามเขาแสดงความคิดเห็นต่อสถาบัน การเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยเกียวโตปลดเขาออกจากตำแหน่ง การห้ามเขาบรรยายในสถาบันการศึกษา การตรวจสอบความสัมพันธ์ทางความคิดกับนักศึกษาไทยในญี่ปุ่น การตรวจสอบเส้นทางการเงินของเขา และการไม่อนุญาตให้เขาพำนักในประเทศญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตามการกระทำเช่นนี้เป็นการแสดงออกถึงการกดดันต่อรัฐบาลและสถาบันญี่ปุ่นอย่างไม่เหมาะสม เพื่อหวังแทรกแซงอำนาจอธิปไตยไทย จากการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลดังกล่าวอย่างต่อเนื่องบุคคลเหล่านี้มักแอบอ้างสถาบันเพื่อสั่งการให้ผู้อื่นมีความเห็นสอดคล้องต่อแนวคิด หรือก่อให้เกิดแรงจูงใจในการเชื่อฟัง และปฏิบัติตามสิ่งที่กลุ่มตนต้องการโดยปราศจากความรับผิดชอบทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดต่อสถาบันกษัตริย์ไทย
นอกจากนี้ กลุ่มบุคคลเหล่านี้ยังมีความมุ่งร้ายต่อสถาบันด้วยการแอบอ้างสถาบันอย่างบ่อยครั้ง เพื่อหวังผลทางการเมืองหรือเอื้อประโยชน์ให้กับตนเองอันสร้างความเสื่อมเสียให้กับสถาบัน ขณะที่ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights) ซึ่งประเทศสมาชิกสหประชาชาติ เช่น ญี่ปุ่นและไทย ลงมติรับรองตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 กำหนดให้ประเทศสมาชิกสหประชาชาติต้องเคารพต่อหลักการสิทธิมนุษยชนที่ได้ตราไว้ในปฏิญญานี้ เช่นการไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ และความคิดเห็นทางการเมือง เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้การแสดงความคิดเห็นของปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ จึงไม่ถือเป็นความผิดเขามิได้เป็นผู้มีมลทินมัวหมอง รัฐบาลและสถาบันญี่ปุ่นจึงไม่ควรตกเป็นเครื่องมือต่อกลุ่มบุคคลเหล่านี้อันหมายทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย-ญี่ปุ่นอันยาวนานกว่า 130 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านอกจากกลุ่มคุณพระช่วย ได้แสดงจุดยืนอ่านข้อความคัดค้านแถลงการณ์ของกลุ่มไทยภักดีแล้วนั้น ได้มอบกระเช้าดอกไม้เพื่อให้กำลังใจประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้มีนายเอกชัย หงส์กังวาน นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง มาร่วมให้กำลังใจด้วย
นายภาณุพงศ์ กล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจพี่เอกชัยและทีมงานว่าเรายังยืนหยัดสู้เหมือนเดิมและยังคงอุดมการณ์เหมือนเดิม เราไม่ได้โดนปรับทัศนคติแต่อย่างใด อุดมการณ์ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมในตัวพวกเราอยู่ ไม่มีใครที่จะมาดิวเราได้ และไม่มีใครที่จะเปลี่ยนความคิดของพวกเราได้นอกจากตัวของเราเอง ตราบใดก็ตามที่พวกเรายังคงยืนหยัดในอุดมการณ์ของพวกเราอยู่ ในอุดมการณ์ของความรักในประชาธิปไตย รักในสิทธิเสรีภาพอยู่ ก็ไม่มีใครที่จะสามารถมาเปลี่ยนความคิดเราได้
นายภาณุพงศ์ กล่าวอีกว่า การไปขอศาลปล่อยตัวของเจ้าหน้าที่ ไปขอศาลปล่อยตัวในวันหยุดราชการ ก็ต้องไปดูไทม์ไลน์กันว่ามันผิดแปลกอะไรกับกระบวนการยุติธรรม และการปล่อยตัวพวกเราออกมามีนัยอะไรหรือไม่ก็ต้องติดตามกันต่อไป พวกเราก็ไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน แต่จะยังคงยืนหยัดในอุดมการณ์เหมือนเดิมตามที่ได้รับปากทุกๆ คนไว้ เราจะยังคงออกมาต่อสู้ เพื่อให้ได้รับชัยชนะเหมือนเดิม
นายภาณุพงศ์ กล่าวว่า ไม่ได้กังวล หลักฐานไม่แน่นพอ จริงๆ แล้วเราก็ยอมรับต่อการพิจารณาคำสั่งของศาล เป็นสิ่งที่นักต่อสู้ต้องพบเจออยู่แล้ว เป็นขวากหนามเล็กๆ น้อยๆ ที่เราต้องฟันฝ่าไปให้ได้ วันนี้ที่มาก็ยังยืนหยัดจะสู้กับทุกคนเหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลงความคิด เราเป็นผู้ต้องขังอย่างไรทุกคนก็มีสิทธิเหมือนกันหมดทุกคน ไม่มีใครเหนือ หรือใครมีอภิสิทธิมากกว่าใครในนั้น และยังดีใจที่ได้เจอรุ่นพี่นักต่อสู้ของเรา เช่น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, พายัพ ฯลฯ ที่ได้มาให้กำลังใจพวกเราในการต่อสู้
นายภาณุพงศ์ กล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย.นี้ว่า รับปากแล้วว่าไปแน่นอน จัดแบบใหญ่ๆ ให้เลย มันถึงเวลาที่เราจะต้องเอาความจริงมาพูดกันแล้ว วันที่ 19 ก.ย.นี้ เจอกันขึ้นเวทีแน่นอน