ตร.ยืนยันแฮกเกอร์ฝั่งยุโรป ปล่อยไวรัสเจาะข้อมูล รพ.สระบุรี
"ดีอีเอส" เผยไวรัสมัลแวร์ที่โจมตีระบบฐานข้อมูลของโรงพยาบาลสระบุรี มาจากต่างประเทศ ในฝั่งทวีปยุโรป โดยยอมรับยังมีข้อมูลโรงพยาบาลและบริษัทเอกชน ถูกเจาะข้อมูลเรียกค่าไถ่ แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นกลุ่มเดียวกับกรณีโรงพยาบาลสระบุรีหรือไม่
วันนี้ ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจตรีพันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการข่าวกรองยาเสพติด หัวหน้าเพื่อประสานความร่วมมือกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ยืนยันว่า มัลแวร์ที่โจมตีระบบฐานข้อมูลของโรงพยาบาลสระบุรี มาจากต่างประเทศ ในฝั่งทวีปยุโรป ลักษณะมีการส่งต่อข้อมูลหลายขั้นตอน จนมาถึงโรงพยาบาลสระบุรี แต่ยังไม่มีการเรียกเงินค่าไถ่ ซึ่งขณะนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ทั้งจากตำรวจ ทหาร กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส อยู่ระหว่างลงพื้นที่สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับที่มาของมัลแวร์ดังกล่าว และลักษณะการทำงานของมัลแวร์ แต่ยอมรับพบข้อมูล มีโรงพยาบาลและบริษัทเอกชนบางแห่ง ถูกแฮกข้อมูลคอมพิวเตอร์เรียกค่าไถ่ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งบางแห่งได้มีการจ่ายเงิน เพื่อเรียกคืนข้อมูลไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ถูกแฮกข้อมูลช่วงเวลาเดียวกันกับโรงพยาบาลสระบุรีหรือไม่ ผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลหรือกลุ่มเดียวกันหรือไม่ และยังไม่สามารถยืนยันจำนวนผู้เสียหายได้
พลตำรวจตรีพันธนะ ยังยอมรับ กรณีโรงพยาบาลสระบุรี เป็นเรื่องใหม่ที่ศูนย์ปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับมาดำเนินการ แม้จะเคยเกิดเหตุลักษณะนี้ในต่างประเทศมาแล้ว ซึ่งจากนี้ ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องแสวงหาความร่วมมือ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์มากขึ้น พร้อมเห็นว่า การจัดตั้งกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หน่วยงานใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะช่วยรองรับภารกิจด้านปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่มีความซับซ้อน กระจายอยู่หลายพื้นที่ และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นได้