'แอสตร้าเซนเนก้า' ได้ไฟเขียว กลับมาทดลอง 'วัคซีนโควิด-19'

แอสตร้าเซนเนก้า บริษัทยารายใหญ่ ที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ทดลองวัคซีนโควิด-19 ได้ผลคืบหน้าไปมากที่สุดตัวหนึ่ง แต่จำเป็นต้องระงับการทดสอบไปก่อนหลังอาสาสมัครชาวอังกฤษรายหนึ่งป่วยปริศนา ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ (12 ก.ย.) คณะกรรมการกำกับดูแลอังกฤษให้ไฟเขียวทดลองต่อได้ เช่นเดียวกับที่บราซิล ที่จะดำเนินการต่อในวันจันทร์ (14 ก.ย.) นี้

ข้อมูลเมื่อวันเสาร์ จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 916,000 คน ติดเชื้อ 28.5 ล้านคน ทั่วโลกจึงต้องแข่งขันพัฒนาวัคซีน ขณะนี้มี 9 บริษัททดลองในขั้น 3 กับคนจำนวนมาก

สำหรับแอสเตร้าเซนเนก้าระหว่างที่หยุดไปนั้นได้เผยว่า บริษัทยังมีความหวังว่าวัคซีนจะพร้อมใช้ได้ภายในสิ้นปีหนี้ถึงต้นปีหน้า

ขณะที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า การทดลองกับคนจำนวนมากขนาดนี้ เป็นธรรมดาที่ต้องมีคนป่วย อาสาสมัครทุกคนจึงต้องได้รับการประเมินผลอย่างใกล้ชิด

นางสาวชาร์ล็อต ซัมเมอร์ส อาจารย์จากคณะแพทย์หน่วยดูแลผู้ป่วยวิกฤติ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ กล่าวว่า การระงับทดลองชี้ให้เห็นถึงความรับผิดชอบของคณะวิจัย ที่ยกให้ความปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาวัคซีน

“ในการรับมือกับโควิด-19 ระบาดทั่วโลก เราจำเป็นต้องพัฒนาวัคซีนและการรักษาที่ใช้แล้วผู้คนสบายใจ ดังนั้นการรักษาความเชื่อมั่นของสาธารณชนว่าเรายึดมั่นในหลักฐาน และไม่ด่วนสรุปก่อนมีข้อมูล ถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง” นักวิชาการกล่าว

แต่คนที่รอไม่ได้ก็มี หนึี่งในนั้นคือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ที่ถูกคู่แข่งอย่างนายโจ ไบเดน กล่าวหาว่า ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน โดยการพูดเสมอว่า จะมีวัคซีนพร้อมใช้ก่อนการเลือกตั้งในเดือน พ.ย.

ประธานาธิบดีทรัมป์ถูกดดันอย่างหนัก เมื่อยอดผู้ติดเชื้อในประเทศพุ่งไม่หยุด วันเสาร์อยู่ที่เกือบ 6.5 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 193,000 คน มากที่สุดในโลกทั้งในแง่ติดเชื้อและเสียชีวิต

ในวันเสาร์เช่นกัน คนที่มีแววว่าไม่เชื่อวัคซีนรวมตัวกันในหลายเมืองของเยอรมนีและกรุงวอร์ซอว์ของโปแลนด์ ประท้วงมาตรการต่อต้านโควิด-19 หลายคนท้าทายด้วยการไม่สวมหน้ากาก ความเคลื่อนไหวนี้มาจากคนหลายกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “นักคิดอิสระ” ไปจนถึงนักรณรงค์ต่อต้านวัคซีน นักทฤษฎีสมคบคิด และนักเคลื่อนไหวขวาจัด