จีไอที อัดกิจกรรมเพิ่มยอดขายอัญมณีและเครื่องประดับไทย

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย รองผู้อำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ หรือจีไอที (GIT) เปิดเผยว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย ในขณะนี้ถือได้ว่าเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทย ซึ่งจะเห็นได้ว่ายอดการส่งออกระหว่างเดือนม.ค-ก.ค. 2563 เพิ่มขึ้นถึง 33.73% หรือมีมูลค่า 12,069.53 ล้านดอลลาร์ หรือ 375,985.30 ล้านบาท  ทั้งนี้หากหักทองคำฯ ออก ยอดการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่า 2,576.68 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 41.87%  จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับได้รับผลกระทบจากวิกฤติอย่างชัดเจน โดยพิจารณายอดการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย ไม่รวมทองคำ เริ่มลดลงตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค. – พ.ค. 2563 แต่ภายหลังจากการคลายล็อคดาวน์ จึงเริ่มปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยในหลายตลาดหลักเช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี จีน แม้ยอดส่งออกไปตลาดเหล่านี้จะปรับลดลงบ้าง หากแต่สินค้าเครื่องประดับเงินและพลอยเนื้อแข็งเจียระไนจากไทยก็ยังคงครองตำแหน่งแหล่งนำเข้าอันดับ 1 มาได้อย่างต่อเนื่อง  

จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และสถานการณ์โรคโควิด – 19 ที่ซ้ำเติม ส่งผลไปยังภาคธุรกิจ การค้า และ การท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยลดลงจากมาตรการล๊อคดาวน์ การกักตัวเพื่อควบคุมโรค ยอดการจับจ่ายใช้สอยของผู้ซื้อในประเทศลดลง ทำให้ผู้ประกอบการเกิดความกังวล โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยในภูมิภาคต่างๆ รวมถึงภาคการส่งออกที่ลูกค้าต่างชาติไม่มีคำสั่งซื้อเข้ามามากนัก ทำให้ผู้ประกอบการขาดสภาพคล่องทางการเงิน ส่งผลไปถึงการจ้างแรงงานในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ โดยเฉพาะแรงงานฝีมือซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ

นายสุเมธ  กล่าวว่า  สถาบันจึงได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านอัญมณีและเครื่องประดับ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ โดยสนับสนุนการค้าออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางการซื้อสินค้าในปัจจุบันที่ได้รับความนิยม พร้อมกระตุ้นความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ผ่านโครงการซื้อด้วยความมั่นใจผ่านใบรับรอง GIT หรือ ภายใต้โครงการ Buy With Confidence (BWC) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยว ที่ซื้อสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในประเทศไทย ซึ่งช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และทำให้อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย โดยเบื้องต้นได้บูรณาการร่วมกับ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยนำผู้ประกอบการขยายช่องทางการค้าผ่าน Platform ของ Thaitrade.com เป็นต้น และยังจัดงานจำหน่ายสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ BWC Fair ขึ้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการ สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่

อีกทั้งสถาบันยังได้มีแผนนำผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในภูมิภาค ของสถาบัน ไปร่วมออกบูธจำหน่ายสินค้า ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง อาทิ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลดิ์ เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าไปยังผู้บริโภคโดยตรง

นอกจากนี้ สถาบันยังได้ร่วมมือกับจังหวัดจันทบุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี จัดงาน เทศกาลนานาชาติ “พลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2020” ระหว่างวันที่ 18 – 22 ธ.ค. 2563 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และ ความเชื่อมั่นในการเลือกอัญมณี รวมถึงเป็นเวทีให้กับผู้ประกอบการไทย ได้จำหน่ายสินค้าให้กับผู้โภค รวมถึงการเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการรายใหญ่ในต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ รวมถึงการท่องเที่ยวส่งท้ายปี 2563 ตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย

“สถาบันในฐานะหน่วยงานกลางด้านอัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการเราจึงได้ปรับหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันในยุค New Normal โดยเปิดหลักสูตรฝึกอบรมออนไลน์มากมาย ครอบคลุมในทุกๆ ด้าน ทั้งการออกแบบ การตลาด ไลฟ์สไตล์ การตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับ รวมทั้งโลหะมีค่า โดยล่าสุด ได้เปิดหลักสูตร GIT Master Class ซึ่งเป็นหลักสูตรออนไลน์ที่เน้นการถ่ายทอดประสบการณ์จริงจากกูรูผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ซึ่งสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  www.git.or.th “นายสุเมธ กล่าว