'จับกัง 1' เฉ่งยับ 'จิรายุ' รู้เท่าหางอึ่งแต่อวดฉลาด ปมศรีพันวา SRIPANWA
"รมว.แรงงาน" เฉ่งยับ "ประธาน กมธ. กิจการฯกองทุน" ความรู้เท่าหางอึ่งแต่อวดฉลาด ปมศรีพันวา SRIPANWA พร้อมสอนวิธีการลงทุน
วันที่ 24 ก.ย. 2563 นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ กิจการศาล องค์กรอิสระ อัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน สภาผู้แทนราษฎร ให้ตอบคำถาม เกี่ยวกับการใช้เงินกองทุนประกันสังคมฯ ไปถือหุ้นศรีพัน ว่าสิ่งที่ นายจิรายุ ตั้งคำถามออกมาได้โชว์ความไม่รู้เรื่อง ออกมาอย่างชัดเจน แต่กลับมาอวดฉลาด ทั้งที่มีความรู้น้อย แถวบ้านผมเรียกว่า มีความรู้เท่าหางอึ่ง แต่ในเมื่อนายจิรายุถามมา ตนจะถือโอกาสสอนวิธีการลงทุน และชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมทราบ ดังนี้
ประกันสังคม ลงทุนในกองทุน ศรีพันวา ไม่ใช่ลงทุนหุ้น เขาเรียกว่ากองทุน หรือ กอง REIT หรือ กองทรัพย์สิน และกองทุนนี้เป็น Freehold คนซื้อกองทุนนี้ได้กรรมสิทธิ์ครอบครองในทรัพย์สิน ซึ่งประกันสังคมลงทุนไป 22.6% นั้น ประกันสังคมเป็นเจ้าของทรัพย์สินนี้อยู่ 22.6% และเงินปันผลที่ประกันสังคมได้รับนั้น มาจากค่าเช่า ซึ่งได้มาตั้งแต่ปี 2557-2563 เป็นเงิน 229 ล้านบาท
ส่วนที่นายจิรายุ บอกว่า ขาดทุนในตัวเลขทางบัญชี ที่คุณดูจากราคาหน่วยลงทุน ในปัจจุบันนี้ จะสอนว่า การลงทุนประเภทนี้ เขาดูที่ทรัพย์สินในมูลค่าราคาประเมิน ซึ่งราคาประเมินทรัพย์สินล่าสุด อยู่ที่ 3,342 ล้านบาท ถ้าหารกลับ จะอยู่ที่ ราคา 11.97 บาทต่อหน่วยลงทุน ส่วนที่ราคาหน่วยลงทุนในตลาดลงทุน ตกลงมาที่ 7.90 บาท ต่อหน่วยลงทุน ตามที่อ้าง สิ่งนี้น่าจะมาจากการที่เกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิดทั่วโลก ทำให้คนที่ลงทุนในกองทุนนี้ เกิดการกลัว ว่าจะไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้เท่านั้นเอง
"จากการที่บอกว่างบการเงินขาดทุนนั้น ก็เป็นการเข้าใจผิด แกล้งหรือไม่มีความรู้ งบการเงินของกองทุนนี้ จริงๆ ซึ่งงบมีกำไรปีล่าสุด 200 กว่าล้าน แต่ที่บอกว่าขาดทุน 157 ล้าน นั้น คือ งบของ บริษัท ศรีพันวา แมเนจเมนท์ ที่คุณปลาวาฬ หรือครอบครัวเขาเป็นผู้มาเช่าบริหารโรงแรม ซึ่งเป็นการเข้าใจผิดแบบไม่รู้หรือไม่เป็นก็ไม่ทราบ ส่วนที่บอกว่าผมควรจะเก็บไว้หรือขาย ผมเรียนว่า เป็นเรื่องของ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเขามีผู้จัดการกองทุน ดูแลตามระเบียบ และผมใน ฐานะ รมว.แรงงาน ไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งหรือรับรู้การลงทุนใดๆทั้งสิ้น"
รมว.แรงงาน กล่าวและว่า ส่วนเรื่องที่บอกว่า ประกันสังคมขาดทุนทางบัญชี 182 ล้านบาท จากลงทุนกองทุนนี้นั้น ก่อนหน้านี้ นายจิรายุเป็นนักประชาสัมพันธ์ คุณใช้แต่ปากไม่ใช่นักบริหารที่เขาใช้สมองใช้ความรู้ เลยอาจจะงงกับการลงทุน เวลานักลงทุนเขาลงทุนกันจะดูที่มูลค่าทรัพย์สิน ไม่ได้มาดูมูลค่าหน่วยลงทุน เช่น ราคาหน่วยลงทุนตกตามสภาพภาวะทั่วโลก แต่ที่ดินทรัพย์สินที่ถืออยู่ไม่ได้ตกตามทรัพย์สินกองทุนนี้ มีบริษัทประเมินที่มีใบรับรองวิชาชีพรับรองถูกต้อง และราคาประเมินล่าสุด ทรัพย์สินมีมูลค่าถึง 3,342 พันล้านบาท มากกว่าตอนลงทุนเสียอีก ซึ่งถ้านายจิรายุลงทุนโดยดูหน่วยลงทุนอย่างเดียว แปลว่า ไม่มีความรู้เรื่องการลงทุน ตนจะแนะนำให้ว่างๆ ไปหัดเรียนการเงินการลงทุน เผื่อวันไหนจะได้ไม่โชว์แบบนี้ออกมาอีก ทีหลังจะโชว์อะไร ช่วยศึกษาข้อมูลก่อน แต่ลืมไปมีถูกข้อหนึ่งที่บอกลงทุนไป 680 ล้าน จริงๆแล้ว ที่เช็คออกมา มีการลงทุน 2 ครั้งหลักๆ ปี 56 และ 59 และเป็นการลงทุนของทั้งกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน เพราะว่าได้ผลตอบแทนดี เลยเป็นการลงทุน 680 กว่าล้าน ตรงนี้ขอชมว่าคุณเดาถูก แต่ไม่ใช่การลงทุนครั้งแรกครั้งเดียวอยากที่คุณเข้าใจ ว่า ราคา IPO 10.80 บาทต่อหน่วย ลงทุนไป 63 ล้านหน่วย จริงๆเขามีการขายทำกำไรได้มาอีก 3 ล้านกว่าบาทด้วย เขาซื้อไปซื้อกลับ ซึ่งผมเองก็ไม่สามารถไปรับรู้ตรงนี้ แต่ขอชมว่าคุณจิรายุเดาเก่ง
ส่วนอีกประเด็นที่มีคนให้ข่าวบิดเบือนความจริงหรือจะด้วยความไม่รู้จริงๆเหมือนกับคุณจิรายุ ในเรื่องปี พ.ศ. ที่ลงทุนอ้างว่าจับโกหก ประกันสังคม ว่าลงทุนปี 2556 นั้นไม่จริง เพราะว่ากองทุนศรีพันวา นี้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปี 2559 จะเรียนว่า ประกันสังคมลงทุนกองทุนนี้ ปี 2556 ได้รับปันผลมาตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา แต่ ปี 2559 กองทุนศรีพันวา ได้นำเข้าไปจดในตลาดหลักทรัพย์เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการซื้อหรือขาย หน่วยลงทุน ให้สะดวกขึ้น สรุปคือ ปี 2556 จัดตั้งกองทุนนี้ขึ้นมา ในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ 1 และพอปี 2559 ได้นำกองทุนนี้ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ฉะนั้นคนที่ดูแต่ในระบบข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ จะมีรายละเอียดในปี 2559 ที่จดทะเบียน แต่กองทุนศรีพันวานั้นได้จัดตั้งเป็นกองทุนตั้งแต่ ปี 2556
"ฉะนั้นขอให้คนที่คิดจะเอาเรื่องนี้มาทำลายความเชื่อมั่นของกองทุนประกันสังคม ผมจะขอว่าให้ค้นหาข้อมูลหรือศึกษาในเรื่องกองทุนนี้ให้ถ่องแท้ก่อน เพราะว่าคุณพูดออกมาในมุมของคนไม่รู้เรื่อง ไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ มันจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงตัวคุณเองที่แสดงความไม่เข้าใจไม่รู้เรื่อง และทำให้พี่น้องประชาชน สับสนหรือเข้าใจผิด จากคนที่ไม่รู้เรื่อง หรือคุณต่างๆเหล่านี้ต้องการที่จะหวังดิสเครดิตรัฐบาล โดยไม่มีเหตุผลหรือหลักความจริงเลย เอาแต่สนุกเอามัน ไม่เคยคิดถึงผลเสียหรือผลกระทบ จากความไม่รู้เรื่องของคุณเลย สุดท้ายนี้ ผมขอฝากขอบคุณไปยังบุคคลที่มีความรู้หลายๆท่าน ที่เข้ามาช่วยคอมเมนท์ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกลับไป ตามสื่อโซเชียลมากมายมหาศาล ขอขอบคุณมากๆอีกครั้งครับผม" รมว.แรงงาน กล่าว