แกะรอย! น้ำพริก ‘แม่ประนอม’ กับการปรับตัวครั้งใหม่ในวัยเก๋า

การปรับตัวครั้งใหม่ของ “น้ำพริกเผาแม่ประนอม” ภายใต้การบริหารของบริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด ที่ก่อตั้งโดย ศิริชัย แดงสุภา และ ประนอม แดงสุภา ที่วันนี้มีอายุอานามราว 61 ปีแล้วนั้น เป็นการปรับตัวในรูปแบบ “น้ำจิ้มไก่แบบหลอด” หลอดสีแดง และ “น้ำพริกเผาไทยแบบหลอด” หลอดสีน้ำเงิน ใช้ง่ายๆ สะดวกสบาย เพียงแค่บีบ ไม่ต้องหาถ้วยมาใส่แบบในอดีต ตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี

มาพร้อมโฆษณาสุดจี๊ดที่สะท้อนภาพของการใช้งานที่คล่องตัว สะดวกสุดๆ และไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทไหน ก็กินเข้ากันได้แบบสุดๆ พลิกโฉมการจิ้ม "น้ำจิ้ม" ไปตลอดกาลจากเดิมต้องเทจากขวดหรือซองใส่ถ้วย เปลี่ยนโฉมสู่หลอดบีบใส่อาหาร

ปัจจุบันแบรนด์แม่ประนอมอยู่ในการบริหารของ "สุรพร ภาษาประเทศ" เจเนอเรชั่น 3 ของแบรนด์ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร และเพิ่งได้รับรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter) และรางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal) จากการมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2563 (Prime Minister’s Export Award 2020)

แต่นี่ไม่ใช่การปรับตัวครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้แบรนด์น้ำพริกเผาแม่ประนอม ได้จับมือกับ "เลอแปง" (Le Pan) แบรนด์ขนมปังของค่ายซีพีแรม (ในเครือซีพี) เปิดตัวจับโบ้แซนด์วิชไส้หมูหยองน้ำพริกเผาแบรนด์เลอแปง วางขายในเซเว่นอีเลฟเว่น ในราคา 20 บาท

นอกจากนี้ น้ำพริกแม่ประนอม ยังร่วมมือกับแบรนด์ "เพรทซ์" (Pretz) บิสกิตแท่งอบกรอบ ออกสินค้าใหม่แหวกแนวอย่าลงตัวอย่าง 2 สูตรลิมิเต็ดอิดิชั่น ทั้งบิสกิตแท่งอบกรอบรสน้ำพริกเผาไทย และบิสกิตแท่งอบกรอบรสน้ำจิ้มไก่ ราคากล่องละ 10 บาท

ทำไมแบรนด์สินค้าอื่นถึงมาจับมือกับ “แม่ประนอม” สิ่งหนึ่งคือความเก๋าของแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน แน่นอนว่า ต้องสะสมฐานลูกค้าที่เป็นแฟนพันธุ์เหนียวแน่นมาจำนวนหนึ่ง และมีความ Royalty ต่อแบรนด์อย่างแน่นอน

ประกอบกับจุดเด่นผลิตภัณฑ์ที่แบรนด์แม่ประนอมคือ ความสด สะอาด อร่อย ที่สำคัญไม่เจือสี แต่งกลิ่น ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่วัตถุกันเสีย และทุกสูตรของน้ำพริกจะมาจากฝีมือการปรุงรสของแม่ประนอมเอง ที่แบรนด์ได้เน้นย้ำมาตั้งแต่ยุคเริ่มแรก และคงความเป็นเอกลักษณ์นี้มาได้ตลอด ทำให้เป็นที่จดจำของผู้บริโภค

ขณะเดียวกันช่วงกลางปี 2563 ที่ผ่านมา “แบรนด์น้ำพริกแม่ประนอม” เพิ่งปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ ปรับจากผู้หญิงในยุคเก่า มาสู่ผู้หญิงยุคใหม่ในปี 2020 เน้นสโลแกน “คู่ครัวตัวแม่” โดยโพสต์ข้อความลงในช่องทางเพจเฟซบุ๊ค Maepranom ส่วนหนึ่งใจความว่า 

ถึงผู้หญิงทุกคน...

ปี 1959 แม่ประนอมเกิดมาพร้อมกรอบ...ที่กำหนดโดยผู้ชาย

ปี 2020 นี้ แม่ขอออกจากกรอบเดิม สร้างกรอบใหม่ที่ผู้หญิงกำหนดเอง

แม่อยากให้ผู้หญิง...

กรอบ...นอก แต่นุ่มใน ไม่อ่อนข้อเหมือนข้อไก่ แต่ยังนุ่มในกับใครที่รักเรา

กรอบ...เด้ง ทั้งเรื่องงานและเรื่องเล่น  ให้ลูกกล้าแอดเฟรนด์

ไม่ลืมกอบโกย..ความสำเร็จ แม้เป็นเวิร์กกิ้งวูแมน..แต่ยังแม่นเรื่องทำอาหาร

และรักษากรอบ...หน้า ไม่ให้ฝ้าขึ้นในวันทอดๆ จนเพื่อนลูกเผลอเรียกว่า “คุณพี่”

เพราะแม่เชื่อว่า.. ‘กรอบ’ ผู้หญิงมีหลายรสชาติ สร้างได้ด้วยตัวเอง

แม่ขอเป็น ‘คู่ครัวตัวแม่’...ให้ข้อคิดชีวิตคู่ไปพร้อมบทเรียนชีวิตครัวให้ทุกคนเอง....

ทั้งนี้ หากมองย้อนกลับไป จะเห็นว่า ไทม์ไลน์ของภาพลักษณ์แบรนด์ที่เปลี่ยนไปโดยมุ่งหน้าไปหากลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้นนั้น เป็นไปอย่างมีลำดับขั้น 

เริ่มจากการเปลี่ยนผ่านจากยุคบุกเบิกที่ผลิตเพียงน้ำพริกเผาบรรจุขวดแก้วอย่างเดียว ก็ค่อยๆ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ครอบคลุมกลุ่มไลน์สินค้าหลัก ได้แก่ น้ำพริก ที่มีการแตกไลน์ย่อยๆ อีกจำนวนมาก เช่น สูตรเจ ไม่มีน้ำตาล ผสมน้ำมันมะกอก ผสมน้ำมันเมล็ดชา ผสมต้มยำ อีกทั้งยังมีน้ำพริกประเภทอื่นอย่างน้ำพริกตาแดง น้ำพริกปลาย่าง น้ำพริกเผาไทยอบกรอบ

ขณะเดียวกันยังมีสินค้าอย่าง น้ำจิ้ม น้ำพริกแกง เครื่องปรุงกึ่งสำเร็จรูป รวมถึงผลิตภัณฑ์พร้อมปรุง (Lasy Set) ออกมาเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ มีเวลาน้อยอย่างแท้จริง เช่น เครื่องผัดกะเพรา ชุดทำข้าวมันไก่ ชุดทำส้มตำไทย น้ำยำพร้อมวุ้นเส้น หรือน้ำแกงเขียวหวาน และยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น พริกป่น บ๊วยดอง หรือปลาร้าป่นอบสำเร็จ เพื่อเพิ่มความหลากหลายด้วย

รวมถึงการสื่อสารด้วยคาแรกเตอร์ของแม่ประนอมที่เปลี่ยนไปเป็นหญิงสาวยุคใหม่ตามติดกระแส ช่างพูดช่างจา สะท้อนจากการใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการเกาะกระแสสังคมต่างๆ รวมถึงนำน้ำจิ้มไก่จากการจิ้มกินกับอาหารต่างๆ พัฒนาสูตรอาหารใหม่สู่เมนูหลากสไตล์ที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ ปรับนิดเติมหน่อยสู่จานอาหารฟิวชั่น นับเป็นกลยุทธ์การตลาดที่มากกว่าการพยายามขายสินค้าเพียงอย่างเดียว

ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียน จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าบริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด มีทุนจดทะเบียน 59 ล้านบาท มีกรรมการบริษัท 3 คนคือ นางศิริพร แดงสุภา นางอรุชา พีชาสารานนท์ และน.ส.ธนาภรณ์ ภาษาประเทศ โดยผลประกอบการปี 2557 มีรายได้รวม 803.342 ล้านบาท รายจ่ายรวม 772.673. ล้านบาท กำไรสุทธิหลังหักภาษี 24.502 ล้านบาท

ที่มา : maepranom, js100, adaybulletin,