'โกลเดน วีค' วันชาติจีน ความหวังฟื้นท่องเที่ยวแดนมังกร
“วันชาติจีน” และ "โกลเดน วีค" ความหวังฟื้นท่องเที่ยวจีน ขณะที่ราคาห้องพักรีสอร์ทซึ่งตั้งอยู่ริมหาดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมสองเท่าเช่นเดียวกับโรงแรมหรูในนครเซี่ยงไฮ้ที่ราคาห้องเพิ่มขึ้น20%
สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 ที่ยังคงระบาดหนักและส่อแววว่า จะเกิดการระบาดรอบใหม่ในบางประเทศ ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศของชาวจีนยุคนี้ ที่มีกำลังซื้อและมีฐานะดีขึ้นเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นการท่องเที่ยวในประเทศจึงเป็นช่องทางเดียวที่ชาวจีนมุ่งมั่นใช้จ่ายทั้งรูปแบบสินค้าและบริการในวันชาติจีน ซึ่งเป็นวันหยุดยาว 1สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดี(1ต.ค.)
ทริปดอทคอม เว็บไซต์จองตั๋วท่องเที่ยวชั้นนำประเมินว่า ช่วงวันหยุดโกลเดนวีคตลอด7วันนี้จะมีชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากถึง 600ล้านคน ซึ่งเมื่อเทียบกับตัวเลขในช่วงเดียวกันของปี 2562 แล้วถือว่าน้อยกว่ากันมากเพราะในปีนั้น มีชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศที่ 780 ล้านคน แต่ก็ช่วยให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในจีนฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
“ถ้าสถานการณ์ปกติ เราจะไปเที่ยวต่างประเทศทุกปี แต่ปีนี้ ซึ่งมีการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เราทำได้แค่เที่ยวภายในประเทศแต่การเที่ยวในประเทศอย่างการมาเที่ยวที่ซานยาก็ช่วยประหยัดเงินได้มากเมื่อเทียบกับการไปเที่ยวต่างประเทศแม้ว่าราคาห้องพักบนเกาะขณะนี้จะแพงขึ้นประมาณ50%ก็ตาม”หญิงชาวเซี่ยงไฮ้ วัย 29 ปี ซึ่งกำลังเดินทางไปเที่ยวที่ซานยา รีสอร์ทที่มีชื่อเสียงบนเกาะไห่หนาน กล่าว
สื่อท้องถิ่นของจีน รายงานว่า ราคาห้องพักของรีสอร์ทซึ่งตั้งอยู่ริมหาดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมสองเท่า เช่นเดียวกับโรงแรมหรูในนครเซี่ยงไฮ้ คิดอัตราค่าห้องเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ในช่วงโกลด์เดนวีค โดยหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ชาวจีนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงนี้คือเมืองอู่ฮั่น เมืองที่เป็นต้นตอการระบาดของโรคโควิด-19
เมื่อชาวจีนต้องเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ เที่ยวบินต่างๆพลอยได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย โดยสายการบินไชนา เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ ผู้นำอุตสาหกรรมการบินของจีน เจอปัญหาผู้โดยสารในประเทศลดลงแค่ 20% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ ขณะที่หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวบางแห่งคาดการณ์ว่า จำนวนผู้โดยสารเดินทางในประเทศช่วงวันหยุดเดือนต.ค. จะมากกว่าปีที่แล้วประมาณ 10% และการเดินทางทางอากาศในจีนในช่วงเดือนดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19
ขณะนี้ รัฐบาลท้องถิ่นในระดับภูมิภาคกำลังใช้ช่วงวันหยุดยาว หรือโกลเดนวีคกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ อย่างกรณีเมืองฮาร์บิน ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลเฮย์หลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐประชาชนจีนแจกเงินจำนวนรวม 200 ล้านหยวน (29.4 ล้านดอลลาร์)เพื่อให้ประชาชนนำไปใช้ในการท่องเที่ยว ชมภาพยนต์ ซื้อสินค้าและบริการอื่นๆ ขณะที่มณฑลชานตง เตรียมออกคูปองช็อปปิ้ง มูลค่า 150ล้านหยวน เช่นเดียวกับเมืองและมณฑลอื่นๆอีกประมาณ 20 แห่งของจีนก็เสนอแรงจูงใจในลักษณะเดียวกัน
ช่วงที่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 บรรดาร้านค้าปลีกและร้านอาหารในจีนทั้งตามเมืองใหญ่และเมืองรอง ต่างดิ้นรนเอาตัวรอดจากวิกฤติสาธารณสุขครั้งนี้ โดยยอดขายในเดือนส.ค. ซึ่งรวมถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ร่วงลง 3.4% ส่วนร้านอาหารยอดขายในเดือนก.ย.ร่วงลง 7% ส่วนยอดขายในธุรกิจค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นยอดขายค้าปลีกสินค้าออนไลน์
การอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศช่วงโกลเดนวีค ไม่ได้มีแต่จีนประเทศเดียวเท่านั้น ในญี่ปุ่นก็ใช้มาตรการนี้เช่นกัน โดยชาวกรุงโตเกียวจะได้เงินอุดหนุนเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศจากรัฐบาลเป็นจำนวนเงินรวม 1.3 ล้านล้านเยน (12.3พันล้านดอลลาร์) หรือจำนวน 2 หมื่นเยนต่อคนต่อคืน โดยแบ่งเป็นค่าที่พัก 35% และ 15% เป็นค่าใช้จ่ายด้านอาหารและเป็นคูปองสำหรับซื้อของที่ระลึก
แคมเปญนี้ ได้รับการตอบรับจากบรรดาผู้ประกอบการด้านโรงแรมและธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างมาก แม้ว่าบริษัทจำนวนมาในอุตสาหกรรมนี้ยังมีความกังวลว่าการเดินทางท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจะยิ่งทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ต้นตอของโรคโควิด-19 มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่แต่ละสัปดาห์ในกรุงโตเกียวปรับตัวร่วงลงจากที่เคยทะยานในช่วงต้นเดือนส.ค.แต่ก็ยังถือว่าสูงกว่าระดับที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนานเกือบสองเดือนในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
“โซอิชิโร อิชิมะ” ผู้จัดการด้านกลยุทธการจัดจำหน่ายจากโฮเทล คาจิคาโสะ โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นในเมืองฮาโกเนะ บอกว่า แคมเปญนี้ของรัฐบาลได้ผลอย่างมาก เพราะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าพักที่โรงแรมเต็มตลอดช่วงวันหยุด4วันเมื่อเดือนที่แล้ว