"ปธ.กมธ.กิจการสภาฯ" หนุนเลิก คำสั่งเรียก หลังเป็นเครื่องมือทำร้ายทางการเมือง
หลังศาลรธน. วินิจฉัย 3มาตราของพ.ร.บ.คำสั่งเรียก ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 มีเสียงสนับสนุนให้ยกเลิกบทลงโทษ- มาตรการเชิงบังคับที่อยู่เหนืออำนาจ กมธ.
นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ต่อประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา พ.ศ.2554 มาตรา 5 ว่าด้วยอำนาจของกมธ.ออกคำสั่งเรียกเอกสารจากบุคคลหรือให้บุคคลแถลงข้อเท็จจริงหรือความเห็น, มาตรา 8 ขั้นตอนการออกคำสั่งเรียก และมาตรา 13 บทกำหนดโทษผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเรียกของกมธ. มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 ว่า ตามรัฐธรรมนูญและระเบียบของสภาฯ กำหนดหน้าที่ของกมธ. ไว้เพียงการศึกษา และสอบข้อเท็จจริง ดังนั้นเนื้อหาของการทำงานไไม่ใช่การชี้ผิด หรือชี้ถูก ดังนั้นการกำหนดบทบัญญัติลักษณะเชิงบังคับไว้ในพ.ร.บ.คำสั่งเรียก ถือเป็นคนละเรื่อง อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญอาจมองว่ากลไกของกมธ. ตามบทบัญญัติดังกล่าว ไม่ควรใช้เพื่อทำร้ายกันทางการเมือง
นายอนันต์ กล่าวด้วยว่าสำหรับ 3 มาตราที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีปัญหากับรัฐธรรมนูญถือว่าไม่สามารถใช้บังคับได้ แต่มาตราอื่นๆ ในพ.ร.บ.คำสั่งเรียกจะยังมีผลต่อไปหรือไม่นั้น ยอมรับว่า กมธ.กิจการสภาฯ ไม่เคยหารือในเรื่องดังกล่าวและไม่เคยนำความของพ.ร.บ.คำสั่งเรียกพิจารณาอย่างจริงจัง ดังนั้นหลังจากนี้ตนจะหารือกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล), ฝ่ายกฎหมายของกมธ. และฝ่ายกฎหมายของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ เพื่อให้ได้คำตอบและแนวทางปฏิบัติของการทำงานในกมธ.ต่อไป.