'ปิยบุตร' โวยคำสั่งเกณฑ์คนสวมเสื้อเหลือง

หลายคนมาด้วยความเต็มใจ มาด้วยเจตจำนงอยากเฝ้ารับเสด็จกษัตริย์

แต่ก็มีอีกหลายคนที่ถูกเกณฑ์มา จำเป็นต้องมาเพราะผู้บังคับบัญชาสั่งแกมขอความร่วมมือ มีทั้งตำรวจชั้นผู้น้อยจากหลายจังหวัด มีทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐจากหลายจังหวัด มีทั้งชายฉกรรจ์เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกบังคับให้ตัดผมเกรียนสูงสามด้าน

มนุษย์เรา หลายครั้ง ก็ตกอยู่ในสถานการณ์บีบบังคับจนตัวเราเองรู้สึกว่า “ไม่มีทางเลือกอื่น” อีกแล้ว นอกจากยอมจำนน ยอมรับคำสั่งที่ตนไม่เห็นด้วย

สถานการณ์ทางหน้าที่การงาน สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สถานการณ์ทางกำลังบังคับ เหล่านี้ ต่างทำหน้าที่ตีกรอบล้อมคอกมนุษย์ไม่ให้ใช้เสรีภาพตามจิตสำนึกของตน

แต่ความเป็นมนุษย์โดยแท้แล้ว คือ เสรีภาพ คือ การตัดสินใจเลือกกระทำไม่เลือกกระทำโดยอิสระ

มนุษย์มีพัฒนาการในสมองจิตสำนึก ค่อยๆ เรียนรู้ว่า เราทำอะไรหรือไม่ทำอะไร เพราะมีอะไรมากำหนด มีอะไรมาบังคับ เมื่อไรก็ตามที่มนุษย์ตระหนักรู้ว่าการบังคับเช่นว่านั้นไร้เหตุผลอย่างสิ้นเชิง พรากเอาความเป็นมนุษย์ของเราไปอย่างเด็ดขาด เมื่อนั้น เราจะกลับไปสู่แก่นแกนของความเป็นมนุษย์ นั่นคือ เสรีภาพ และความเป็นขบถ

เราจะยืนตัวตรงอย่างทะนงองอาจ กล้าขัดขืนต่อคำสั่งบังคับ

เราจะปลดปล่อยพันธะทุกอย่างที่เสมือนดังโซ่ตรวนที่รัดเราไว้ตลอดชีวิตออกไป เพื่อกลับสู่ความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง

พี่น้องประชาชน พี่น้องข้าราชการตำรวจ ข้าราชการทหาร พี่น้องเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกท่านครับ

ผมอยากเชิญชวนให้ท่านพินิจพิจารณาอย่างอิสระเสรี

ใครกันที่ออกคำสั่งบังคับให้ท่านกระทำในสิ่งที่ท่านไม่อยากทำ

ให้ท่านต้องตัดผมทรงเดียวกันทั้งประเทศ

ให้ท่านต้องมาใช้กำลังกับนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน อนาคตของชาติ

ให้ท่านต้องเดินทางมาใน “รถขยะ" มานั่งริมฟุตบาทตากแดดตากฝน

พวกเขาอ้างเรื่อง “ความมั่นคง” “จงรักภักดี” “กฎหมาย” “การปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการที่ดี” “ยศตำแหน่ง หน้าที่การงาน” มาเป็น “น้ำตาล” ใช้เคลือบ “ยาพิษ” แบบคำสั่งที่อยุติธรรมทั้งต่อตัวพวกท่านและผู้อื่น

แต่ท่าน คือ “มนุษย์” มิใช่ “สัตว์” ที่ถูกบังคับ

ท่านมีสมอง มีจิตสำนึก มีเสรีภาพทางความคิดที่ติดตัวมนุษย์มาแต่กำเนิด

การตัดสินใจต่อต้านขัดขืน กระทำได้ยากลำบาก เมื่อเราเริ่มต้นคิด เราจะกลัว กังวล กลัวอันตราย ไม่ปลอดภัย เสียหน้าที่การงาน ต้องออกไป

จากพื้นที่ที่ท่านคิดว่าสะดวกสบาย ไปอยู่ในสภาพความเสี่ยง

แต่นั่นคือการเสี่ยงเพื่อพาเราไปสู่เสรี

และที่แห่งนั้น “ดี” กว่าที่ท่านอยู่อย่างกล้ำกลืนฝืนทนแน่นอน

ที่แห่งนั้น คือ ที่ของประชาชน มีเสรีภาพ มีน้ำใจไมตรี อยู่ร่วมกันอย่างฉันมิตร และที่แน่ๆ ไม่มีใครไปบังคับให้ท่านต้องตัดผม

ถนน “ราชดำเนิน” มีพื้นที่กว้างขวาง

ท่านลองใช้จิตสำนึกแห่งความเป็นมนุษย์ มิใช่ เจ้าหน้าที่ เลือกปลดปล่อยตนเอง ออกจากการกดขี่บังคับที่ท่านเจอทุกวัน แล้วข้ามมาอีกฝั่ง เดินข้ามถนนมายืนอยู่กับประชาชน

ปลดแอกตนเองจากสภาวะความเป็นทาส

ปลดแอกประชาชนจากสภาวะความเป็นทาส

ปลดแอกประเทศไทยไปด้วยกัน

#ม๊อบ14ตุลา #สู้เป็นไทถอยเป็นทาส