กอร.ฉ. แจงยังเปิดเผยสารเคมีสลายม็อบไม่ได้ อ้างรอผู้เชี่ยวชาญก่อน
กอร.ฉ. ย้ำ บังคับใช้กฎหมายจัดการม็อบเข้มข้น ยึดหลักสากล แต่ยังเปิดเผยส่วนผสมสารเคมที่ใช้สลายการชุมนุมไม่ได้ อ้างให้นครบาลแจงแทน
เมื่อเวลา 12.15น. กองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.)ได้เปิดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยพล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ เป็นโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การบังคับใช้กฎหมายตอนนี้เป็นไปตามกฎหมายเฉพาะ หากมีการฝ่าฝืนตำรวจจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายและยึดตามหลักสากล สร้างสมดุลระหว่างการรักษาความสงบและความปลอดภัยของประชาชน
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้มีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จมาเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ใน 2 กรณี ได้แก่ 1.กรณีประกาศของหัวหน้าผู้รับผิดชอบการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง 6/2563 โดยมีการบิดเบือนว่าลงปีพ.ศ.ประกาศเป็น 2562 และยังมีการเขียนข้อความสีแดงว่าประกาศเป็นโมฆะ ซึ่งผู้กระทำมีเจตนาบิดเบือน ทั้งๆที่ในข้อเท็จจริงประกาศดังกล่าวได้ลงวันเดือนปีถูกต้องตามราชกิจจานุเบกษา ผู้กระทำความผิดจะมีโทษจำคุกและปรับตามกฎหมาย จึงขอให้ประชาชนอย่าส่งต่อ 2.กรณีปรากฎภาพและกล่าวหาตำรวจว่าได้นำกระป๋องสีพ่นกลางแยกลาดพร้าว ซึ่งความจริงแล้วตำรวจได้เข้าตรวจสอบพื้นที่และพบข้อความไม่เหมาะสมบนพื้นถนน จึงถ่ายภาพและรายงานผู้บังคับบัญชาต่อไป ซึ่งผู้เพยแพร่จะมีความผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์
ผู้สื่อข่าวถามว่า การบังคับใช้กฎหมายของตำรวจนั้นเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ โฆษกสตช. กล่าวว่า เราอยู่ในช่วงการใช้กฎหมายพิเศษ ซึ่งแตกต่างจากการใช้กฎหมายในสถานการณ์ทั่วไป การดำเนินการทุกอย่างเรายึดกฎหมายเป็นหลัก ส่วนการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ชุมนุมเราทำตามหลักสากล เรายืนยันว่าเราทำตามหน้าที่และกฎหมาย
เมื่อถามว่า จะเปิดเผยสารเคมีและส่วนผสมที่ใช้สลายการชุมนุมได้หรือไม่ โฆษกสตช. กล่าวว่า ขอมอบให้นักเคมีหรือผู้ชำนาญการมานำเสนอต่อสื่อมวลชนแล้วกัน ระหว่างนี้ขอยืนยันว่าเป็นไปหลักสากล เรื่องอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นตามสถานการณ์บนท้องถนน ขอให้กองบัญชาตำรวจนครบาลเป็นผู้แถลง