'สุพัฒนพงษ์'ห่วงชุมนุมทำเศรษฐกิจสะดุด ชี้ปัญหาการเมืองต้องใช้การเมืองแก้
“สุพัฒนพงษ์”ชี้การเมืองต้องใช้การเมืองแก้ มองข้อเรียกร้องต่างๆของผู้ประท้วง แก้ไขได้โดยกลไกนิติบัญญัติ ระบุยิ่งการเมืองกดดันผู้ใหญ่ต้องช่วยกันดูแลประคองเศรษฐกิจ รับเสียดายโอกาสการฟื้นตัวประเทศไทยหลังโควิดต้องสะดุดเพราะการเมืองเชื่อไม่สะดุดนาน
วันนี้ (19 ต.ค.) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ร่วมการประชุมประจำปี สมาพันธ์หอการค้าไทย-จีน และสมาคมธุรกิจต่างๆ ณ หอประชุมใหญ่ กวางหวาถังอาคารไทย ซี.ซี.กรุงเทพฯ โดยในช่วงการสอบถามของนักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีนที่ร่วมงานมีผู้ที่สอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นตนขอพูดในนามส่วนตัวไม่ใช่ในนามรองนายกฯหรือรมว.พลังงานว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง เป็นเรื่องที่เกิดจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ รัฐบาลเองก็มีความชัดเจนว่าเรื่องนี้หากกระทำในกรอบของกฎหมายก็คงไม่เป็นอะไรให้แสดงออกได้ แต่การกระทำที่นอกกฎหมายก็ต้องมีการดำเนินการ หลักการตรงนี้ต้องมีอยู่ ในเรื่องนี้รัฐบาลก็ต้องดูแล
ทั้งนี้สิ่งหนึ่งที่รู้สึกก็คือเสียดาย ว่าวันนี้ประเทศไทยเพิ่งจะผ่านจากสถานการณ์โควิด-19 เหมือนกับทั่วโลกเป็นคนป่วยที่ยังต้องรักษาแต่ไทยเหมือนเราพ้นจากโควิด-19 มาได้เหมือนคนป่วยที่ออกมาพักฟื้นแล้วกำลังจะลุกเดินไปได้ รอที่จะเดินหน้า พอจะค่อยๆเดินก็เกิดเรื่องม็อบเล็กๆ ไม่เกิน 5% ของคนทั้งประเทศ ขึ้นมาซึ่งอาจทำให้ในทางเศรษฐกิจสะดุดบ้างแต่ก็มองว่าสะดุดไม่นาน
โดยสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ในการเมืองขนาดนี้ทำให้เราต้องยิ่งอดทน ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องการเมืองก็ต้องใช้การเมืองแก้ วันนี้ก็มีข่าวแล้วว่าในทางการเมืองเขากำลังจะแก้ไขก็ปล่อยให้เป็นเรื่องทางการเมืองที่จะแก้ไขไป เพราะทางออกที่ดีที่สุดก็คือการเข้าสู่ระบบและแก้ไข สำคัญที่สุดคือต้องช่วยกันประคับประคองเศรษฐกิจให้เดินไปให้ได้มากที่สุด
เมื่อถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเศรษฐกิจสะดุดหรือไม่ก็สะดุดบ้าง แต่ผมไม่มองว่าจะสะดุดยาว เราก็ทำหน้าที่ประคับประคอง ในตอนนี้ถ้าเอาประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง ในจังหวะเวลาแบบนี้ ที่ไทยกำลังจะฟื้นจะได้เปรียบก็มาเจอจุดที่มีความขัดแย้งทางการเมืองพอดี
จริงๆแล้วเรื่องที่ขอกันอยู่ในกระบวนการทางการเมืองก็ไปแก้ทางการเมืองได้ มีกำหนดการระยะเวลาที่วางไว้แล้วว่าจะแก้อย่างไร หรือหากจะขอให้เร็วขึ้นก็ไปพูดคุยกันซึ่ีงมีช่องทางให้แก้ไขได้ สิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องทำก็คือยิ่งต้องอดทนยิ่งต้องช่วยกันไปเที่ยว ไปใช้เงินเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจกันต่อไปซึ่งทุกคนต้องทำหน้าที่กันต่อ มาตรการของรัฐที่ออกมา 3 - 4 มาตรการยังต้องการให้ประชาชนร่วมมือเพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ