กกพ.จ่อเข้มเกณฑ์วางท่อก๊าซ

กกพ.จ่อเข้มเกณฑ์วางท่อก๊าซ

กกพ.เล็งเพิ่มระเบียบคุมเข้มกำกับดูแลระบบท่อส่งก๊าซ หวั่นซ้ำรอยอุบัติเหตุระเบิด จ.สมุทรปราการ หลังพบสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ชุมชนรุกคืบทำกิจกรรมใกล้แนวท่อ

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) กล่าวว่า เหตุท่อก๊าซธรรมชาติรั่ว และเกิดระเบิด ที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการนั้น ทาง กกพ.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลกิจการพลังงานทั้งไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ เตรียมพิจารณาว่าออกกฎระเบียบกฎเกณฑ์กำกับดูแลเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย และให้สอดรับกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน

“ปัจจุบัน สภาพแวดล้อมใกล้ท่อก๊าซฯแต่ละเส้น เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมาก มีทั้งชุมชน ถนน สิ่งก่อสร้าง เกิดขึ้นใกล้บริเวณวางแนวท่อก๊าซมากขึ้น แม้ว่า ทาง ปตท.จะมีมาตรฐานดูแลความปลอดภัยสูง แต่ที่ผ่านมาก็มีอุบัติเหตุ จากการไม่ระมัดระวังของบุคคลภายนอก แม้จะมีข้อห้ามเรื่องไม่ให้คนภายนอกเข้าพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต”

160371113951

อีกทั้ง ท่อก๊าซของไทยได้ผ่านการใช้งานมานานเกือบ 40 ปี นับจากประเทศไทย ได้ค้นพบก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย จึงเริ่มมีการก่อสร้างระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติและเริ่มใช้งานในปี 2524 โดยบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ขณะที่ท่อก๊าซเป็นเครือข่ายทั่วประเทศ ความยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และท่อก๊าซหลักบนบก ความยาวประมาณ 2,641 กิโลเมตร และเส้นที่เกิดอุบัติเหตุเป็นท่อก๊าซเส้นที่ 2 ซึ่งผ่านการใช้งานมาตั้งแต่ปี 2539

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ ยังต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญสรุปสาเหตุที่ชัดเจนก่อน เพื่อที่ทางสำนักงาน กกพ. จะได้นำข้อมูลต่างๆ มาพิจารณาออกระเบียบเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ในแง่ความมั่นคงด้านพลังงานของไทย ถือว่าไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะการบริหารจัดการพลังงานของไทย มีการวางแผนอย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบท่อก๊าซฯ หลายเส้นเชื่อมโยงโครงข่ายกัน เช่นเดียวกับระบบสายส่งไฟฟ้า จะเห็นได้ว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ก็จะกระทบต่อผู้ใช้ก๊าซฯ เพียงช่วงแรกเท่านั้น และสามารถบริหารจัดการส่งก๊าซฯ สับสายส่งไฟฟ้าทดแทนได้อย่างรวดเร็ว จนไม่กระทบต่อระบบไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วไป

160371119047

ทั้งนี้ ในส่วนของความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทาง ปตท. ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด และขออนุมัติกรอบเงินเยียวยามาจ่ายชดเชยให้กับผู้ประสบภัยตามที่ประกาศไว้ เช่น จ่ายครอบครัวผู้เสียชีวิต 5 ล้านบาท เป็นต้น

นอกจากนี้ ปตท.ได้ทำประกันภัยคุ้มครองความเสี่ยงบองทรัพย์สินหลักที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจมาตรฐานสากลมีความคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน ธุรกิจหยุดชะงัก และความรับผิดตามกฎหมายของ ปตท.ต่อบุคคลกายนอก โดยเหตุการณ์นี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 66 ราย และสร้างความเสียหายให้กับที่พักอาศัยและยานพาหนะที่อยู่บริเวณใกล้เคียง