‘ซัมมิทฯ’รุกสินเชื่อเช่าซื้อจยย.ชิงมาร์เก็ตแชร์10%ในปี64
ซัมมิท แคปปิตอล เดินหน้ารุกตลาดปี 2564 ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาด10% ทุ่ม150ล้านบาทยกเครื่องระบบไอที เผยธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ยังโต 3.85%
นายฮิเดโตโมะ ฟูจิวาระ ประธานบริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด กล่าวว่า สำหรับแผนธุรกิจในปี 2564 บริษัทมีนโยบายมุ่งสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน โดยเน้นเรื่องการให้สินเชื่ออย่างระมัดระวังและการควบคุมคุณภาพหนี้ตามแนวทางการปล่อยสินเชื่อด้วยความรับผิดชอบของธนาคารแห่งประเทศไทย ควบคู่กับการร่วมช่วยเหลือสังคมและสนับสนุนอุตสาหกรรมสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และสินเชื่อบุคคล
พร้อมกันนี้ทุ่มงบ150 ล้านบาท เดินหน้าเรื่อง digital transformation หรือการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องจากปีนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการให้บริการ ก้าวสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล
จากที่ผ่านมานี้ ได้เริ่มนำระบบเทคโนโลยีต่อสายอัตโนมัติ (Auto Dialer) เพื่อติดตามทวงหนี้ได้รวดเร็วมากขึ้น โดยระบบจะแจ้งข้อมูลว่าลูกหนี้รายใดควรติดตามทวงหนี้ก่อนและจะเห็นได้ทันทีว่าใครมีความเสี่ยง ทำให้เป็นการควบคุมคุณภาพลูกหนี้ได้ระดับหนึ่ง เพิ่มประสิทธิภาพการตามหนี้ได้ดีขึ้นถึง 50% ส่งผลให้หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ปัจจุบันอยู่เพียง 1% แม้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวเป็นหลัก
นอกจากนี้ จะรุกขยายตลาดในทุกภาคของไทยและเพิ่มจำนวนสาขาทั่วประเทศอีก 3-6สาขาในปีหน้าขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยปัจจุบันบริษัท มีจำนวนสาขา 37 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงจะขยายตลาดสินเชื่อบุคคล และเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าบุคคลและดีลเลอร์อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีดีลเลอร์หรือตัวแทนจำหน่ายกว่า 400 ราย
ตั้งเป้าหมายครองส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในปี2564 ที่ 10% จากปัจจุบันอยู่ที่8.8% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่7.3%
จากในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 แม้ธุรกิจจะมีการชะลอตัวลงบ้างจากสถานการณ์โควิด-19 แต่บริษัทยังมีการเติบโตได้เนื่องจากรถจักรยานยนต์ยังเป็นปัจจัยพื้นฐานในการใช้ชีวิตและประกอบธุรกิจของคนไทย
โดยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น 3.85% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีจำนวนสัญญาเช่าซื้อรวมทั้งสิ้น 274,817สัญญา เพิ่มขึ้นจาก 264,624 สัญญาในช่วงเดียวกันปีก่อน โดนภาคที่มีการเติบโตของสัญญาเช่าซื้อรถจักรยานยนต์สูงสุดในปีนี้คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เติบโต 32.1%
ขณะที่กระแสข่าวธนาคารรัฐแห่งหนึ่งเตรียมเข้าร่วมแข่งขันสินเชื่อเช่าซื้อรถ โดยเฉพาะจำนำทะเบียนรถนั้น มองว่าขณะนี้ซัมมิทฯ ยังไม่มีธุรกิจจำนำทะเบียนรถ แต่คิดว่าหากธนาคารแห่งนี้เข้ามาแข่งขันจะเป็นการดีต่อตลาดและลูกค้าซึ่งซัมมิทฯ มีผู้ถือหุ้นเป็นธนาคารญี่ปุ่น ทำให้มองจำนำทะเบียนเป็นเรื่องใหญ่และมีความแตกต่างจากที่ซัมมิทฯ ทำเพราะต้องมีสาขาจำนวนที่มากขึ้นและคงทำกับพันธมิตรญี่ปุ่นก่อน